วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ปลอกคอกันเห่า คุณภาพเยี่ยม

ปลอกคอกันเห่า ปลอกคอช่วยฝึกสุวานให้เห่าน้อยลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงสามารถปรับขนาดสายให้เข้ากับคอสุนัขได้ ภายใน 3-6 วันสุนัขที่ใส่ปลอกคอนี้จะเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละตัว) เมื่อสุนัขเห่า เส้นเสียงจะสั่นสะเทือน ผ่านออกมาที่ลำคอ เมื่อเซนเซอร์ที่เครื่องจับการสั่นสะเทือนนั้นได้ จะส่งคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแต่สัตว์ได้ยินออกมากวนการเห่าของสุนัข โดยที่สุนัขไม่รู้สึกเจ็บใดใด เพียงรำคาญเท่านั้น เพื่อให้มันเรียนว่าไม่ควรเห่าเมื่อไม่จำเป็น ปลอกคอนี้จะไม่ทำงาน จากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น
ปลอกคอกันเห่า คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห่า สามารถเลือกใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคหรือคลื่นเสียงปกติได้
- ปลอกคอลดเห่า ปลอดภัยต่อคุณและสัตว์เลี้ยง
- ภายใน 3 - 6 วัน สุนัขจะงูเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- เครื่องจะทำงานเมื่อเซนเซอร์จับเสียงเห่าได้ (เครื่องจะไม่ทำงานจากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น)
- ปลอกคอไฟฟ้า นี้สามารถกันน้ำได้ 100% สุนัขจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างพ้นภัย
- ปรับความยาวสายให้เหมาะกับคอสุนัขได้ทุกขนาด
- ขนาดสินค้า: 65 x 15 x 65 มม.

สำหรับมนุษย์ "การประภาษ" เป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน "การเห่า" ก็ถือเป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันของสุนัขเช่นกัน การที่สุนัขเห่าในแต่ละครั้งนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสังเกตให้ดีจะพบว่า ลักษณะการเห่าจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ เช่น เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณบ้าน , เห่าเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ (นก , หนู , งู ฯ) , เห่าเมื่อเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

     และด้วยลักษณะการเห่าที่เบี่ยงเบนกันนี้บ่งบอกถึงสิ่งที่สุนัขต้องการจะติดต่อสื่อสารให้ผู้เลี้ยงรับรู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมสุนัขจึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงว่า ถ้าหากผู้เลี้ยงอยากเข้าใจสุวานของตัวเองมากขึ้น ก็ควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของลักษณะการเห่าในแบบต่างๆ เพื่อที่จะได้ฟังออกว่าสุนัขต้องการจะบอกอะไรกับเรา ... เพื่อให้คุณผู้เลี้ยงกับสุนัขเข้าใจกันมากขึ้น

    เห่าติดต่อกันเป็นชุด ๆ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงหยุดระหว่างชุด ..... การเห่าแบบนี้เป็นการชี้ชวนเจ้าของให้มาดูบางสิ่งบางอย่าง "เจ้านายมาดูนี่สิ น่าสนใจมากๆ เลย!!"

     •  เห่าเร็ว ๆ ติดต่อกันด้วยโทนเสียงปานกลาง ..... การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าในลักษณะเตือนภัย เพื่อบอกให้รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไม่น่าไว้ใน "อะไรน่ะ ๆๆ!!"
     •  เห่าด้วยเสียงต่ำๆ ติดต่อกันอย่างช้าๆ ..... อันตรายมากๆ เลยทีเดียวการเห่าแบบนี้ เพราะสุนัขกำลังบอกเราว่า ตอนนี้กำลังมีภัยประชิดตัวเขาอยู่ "อย่าเข้ามานะ ช่วยด้วย!!"
     •  เห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ..... การเห่าแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสุนัขที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว เขากำลังบอกกับเราว่า "เฮ้ มีใครอยู่รึเปล่า ตอนนี้ฉันเหงามากเลย มาเล่นกันหน่อยสิ"

ปลอกคอกันเห่า ลดราคา

ปลอกคอกันเห่า ปลอกคอช่วยฝึกสุวานให้เห่าน้อยลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงสามารถปรับขนาดสายให้เข้ากับคอสุนัขได้ ภายใน 3-6 วันสุนัขที่ใส่ปลอกคอนี้จะเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละตัว) เมื่อสุนัขเห่า เส้นเสียงจะสั่นสะเทือน ผ่านออกมาที่ลำคอ เมื่อเซนเซอร์ที่เครื่องจับการสั่นสะเทือนนั้นได้ จะส่งคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแต่สัตว์ได้ยินออกมาราวีการเห่าของสุนัข โดยที่สุนัขไม่รู้สึกเจ็บใดใด เพียงรำคาญเท่านั้น เพื่อให้มันเล่าเรียนว่าไม่ควรเห่าเมื่อไม่จำเป็น ปลอกคอนี้จะไม่ทำงาน จากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น
ปลอกคอกันเห่า คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห่า สามารถเลือกใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคหรือคลื่นเสียงปกติได้
- ปลอกคอลดเห่า ปลอดภัยต่อคุณและสัตว์เลี้ยง
- ภายใน 3 - 6 วัน สุนัขจะเห่าหอนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- เครื่องจะทำงานเมื่อเซนเซอร์จับเสียงเห่าได้ (เครื่องจะไม่ทำงานจากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น)
- ปลอกคอไฟฟ้า นี้สามารถกันน้ำได้ 100% สุนัขจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างไม่เป็นอันตราย
- ปรับความยาวสายให้เหมาะกับคอสุนัขได้ทุกขนาด
- ขนาดสินค้า: 65 x 15 x 65 มม.

สำหรับมนุษย์ "การบอก" เป็นวิธีการติดต่อสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน "การเห่า" ก็ถือเป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันของสุนัขเช่นกัน การที่สุนัขเห่าในแต่ละครั้งนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสังเกตให้ดีจะพบว่า ลักษณะการเห่าจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ เช่น เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณบ้าน , เห่าเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ (นก , หนู , งู ฯ) , เห่าเมื่อเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

     และด้วยลักษณะการเห่าที่ฉีกแนวกันนี้บ่งบอกถึงสิ่งที่สุนัขต้องการจะติดต่อสื่อสารให้ผู้เลี้ยงรับรู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมสุนัขจึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงว่า ถ้าหากผู้เลี้ยงอยากเข้าใจสุวานของตัวเองมากขึ้น ก็ควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของลักษณะการเห่าในแบบต่างๆ เพื่อที่จะได้ตระหนักว่าสุนัขต้องการจะบอกอะไรกับเรา ... เพื่อให้คุณผู้เลี้ยงกับสุนัขเข้าใจกันมากขึ้น

    เห่าติดต่อกันเป็นชุด ๆ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงหยุดระหว่างชุด ..... การเห่าแบบนี้เป็นการชี้ชวนเจ้าของให้มาดูบางสิ่งบางอย่าง "เจ้านายมาดูนี่สิ น่าสนใจมากๆ เลย!!"

     •  เห่าเร็ว ๆ ติดต่อกันด้วยโทนเสียงปานกลาง ..... การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าในรูปร่างเตือนภัย เพื่อบอกให้รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไม่น่าไว้ใน "อะไรน่ะ ๆๆ!!"
     •  เห่าด้วยเสียงต่ำๆ ติดต่อกันอย่างช้าๆ ..... อันตรายมากๆ เลยทีเดียวการเห่าแบบนี้ เพราะสุนัขกำลังบอกเราว่า ตอนนี้กำลังมีภัยประชิดตัวเขาอยู่ "อย่าเข้ามานะ ช่วยด้วย!!"
     •  เห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ..... การเห่าแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสุนัขที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว เขากำลังบอกกับเราว่า "เฮ้ มีใครอยู่รึเปล่า ตอนนี้ฉันเหงามากเลย มาเล่นกันหน่อยสิ"

ปลอกคอกันเห่า ซื้อที่ไหนดี

ปลอกคอกันเห่า ปลอกคอช่วยฝึกสุวานให้เห่าน้อยลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงสามารถปรับขนาดสายให้เข้ากับคอสุนัขได้ ภายใน 3-6 วันสุนัขที่ใส่ปลอกคอนี้จะเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละตัว) เมื่อสุนัขเห่า เส้นเสียงจะสั่นสะเทือน ผ่านออกมาที่ลำคอ เมื่อเซนเซอร์ที่เครื่องจับการสั่นสะเทือนนั้นได้ จะส่งคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแต่สัตว์ได้ยินออกมาก่อกวนการเห่าของสุนัข โดยที่สุนัขไม่รู้สึกเจ็บใดใด เพียงรำคาญเท่านั้น เพื่อให้มันเรียนรู้ว่าไม่ควรเห่าเมื่อไม่จำเป็น ปลอกคอนี้จะไม่ทำงาน จากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น
ปลอกคอกันเห่า คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห่า สามารถเลือกใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคหรือคลื่นเสียงปกติได้
- ปลอกคอลดเห่า ปลอดภัยต่อคุณและสัตว์เลี้ยง
- ภายใน 3 - 6 วัน สุนัขจะเห่าหอนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- เครื่องจะทำงานเมื่อเซนเซอร์จับเสียงเห่าได้ (เครื่องจะไม่ทำงานจากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น)
- ปลอกคอไฟฟ้า นี้สามารถกันน้ำได้ 100% สุนัขจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างหนักแน่น
- ปรับความยาวสายให้เหมาะกับคอสุนัขได้ทุกขนาด
- ขนาดสินค้า: 65 x 15 x 65 มม.

สำหรับมนุษย์ "การกล่าว" เป็นวิธีการติดต่อหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน "การเห่า" ก็ถือเป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันของสุนัขเช่นกัน การที่สุนัขเห่าในแต่ละครั้งนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสังเกตให้ดีจะพบว่า ลักษณะการเห่าจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ เช่น เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณบ้าน , เห่าเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ (นก , หนู , งู ฯ) , เห่าเมื่อเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

     และด้วยลักษณะการเห่าที่แปลกกันนี้บ่งบอกถึงสิ่งที่สุนัขต้องการจะติดต่อสื่อสารให้ผู้เลี้ยงรับรู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมสุนัขจึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงว่า ถ้าหากผู้เลี้ยงอยากเข้าใจสุวานของตัวเองมากขึ้น ก็ควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของลักษณะการเห่าในแบบต่างๆ เพื่อที่จะได้รู้เรื่องว่าสุนัขต้องการจะบอกอะไรกับเรา ... เพื่อให้คุณผู้เลี้ยงกับสุนัขเข้าใจกันมากขึ้น

    เห่าติดต่อกันเป็นชุด ๆ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงหยุดระหว่างชุด ..... การเห่าแบบนี้เป็นการชี้ชวนเจ้าของให้มาดูบางสิ่งบางอย่าง "เจ้านายมาดูนี่สิ น่าสนใจมากๆ เลย!!"

     •  เห่าเร็ว ๆ ติดต่อกันด้วยโทนเสียงปานกลาง ..... การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าในสัณฐานเตือนภัย เพื่อบอกให้รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไม่น่าไว้ใน "อะไรน่ะ ๆๆ!!"
     •  เห่าด้วยเสียงต่ำๆ ติดต่อกันอย่างช้าๆ ..... อันตรายมากๆ เลยทีเดียวการเห่าแบบนี้ เพราะสุนัขกำลังบอกเราว่า ตอนนี้กำลังมีภัยประชิดตัวเขาอยู่ "อย่าเข้ามานะ ช่วยด้วย!!"
     •  เห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ..... การเห่าแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสุนัขที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว เขากำลังบอกกับเราว่า "เฮ้ มีใครอยู่รึเปล่า ตอนนี้ฉันเหงามากเลย มาเล่นกันหน่อยสิ"

ปลอกคอกันเห่า สุนัขจะเห่าน้อยลง

ปลอกคอกันเห่า ปลอกคอช่วยฝึกหมาให้เห่าน้อยลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงสามารถปรับขนาดสายให้เข้ากับคอสุนัขได้ ภายใน 3-6 วันสุนัขที่ใส่ปลอกคอนี้จะเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละตัว) เมื่อสุนัขเห่า เส้นเสียงจะสั่นสะเทือน ผ่านออกมาที่ลำคอ เมื่อเซนเซอร์ที่เครื่องจับการสั่นสะเทือนนั้นได้ จะส่งคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแต่สัตว์ได้ยินออกมาแผ้วพานการเห่าของสุนัข โดยที่สุนัขไม่รู้สึกเจ็บใดใด เพียงรำคาญเท่านั้น เพื่อให้มันเล่าเรียนว่าไม่ควรเห่าเมื่อไม่จำเป็น ปลอกคอนี้จะไม่ทำงาน จากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น
ปลอกคอกันเห่า คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห่า สามารถเลือกใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคหรือคลื่นเสียงปกติได้
- ปลอกคอลดเห่า ปลอดภัยต่อคุณและสัตว์เลี้ยง
- ภายใน 3 - 6 วัน สุนัขจะงูเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- เครื่องจะทำงานเมื่อเซนเซอร์จับเสียงเห่าได้ (เครื่องจะไม่ทำงานจากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น)
- ปลอกคอไฟฟ้า นี้สามารถกันน้ำได้ 100% สุนัขจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างมั่นคง
- ปรับความยาวสายให้เหมาะกับคอสุนัขได้ทุกขนาด
- ขนาดสินค้า: 65 x 15 x 65 มม.

สำหรับมนุษย์ "การปริปาก" เป็นวิธีการติดต่อหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน "การเห่า" ก็ถือเป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันของสุนัขเช่นกัน การที่สุนัขเห่าในแต่ละครั้งนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสังเกตให้ดีจะพบว่า ลักษณะการเห่าจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ เช่น เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณบ้าน , เห่าเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ (นก , หนู , งู ฯ) , เห่าเมื่อเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

     และด้วยลักษณะการเห่าที่ผิดแผกกันนี้บ่งบอกถึงสิ่งที่สุนัขต้องการจะติดต่อให้ผู้เลี้ยงรับรู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมสุนัขจึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงว่า ถ้าหากผู้เลี้ยงอยากเข้าใจสุวานของตัวเองมากขึ้น ก็ควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของลักษณะการเห่าในแบบต่างๆ เพื่อที่จะได้ฟังรู้เรื่องว่าสุนัขต้องการจะบอกอะไรกับเรา ... เพื่อให้คุณผู้เลี้ยงกับสุนัขเข้าใจกันมากขึ้น

    เห่าติดต่อกันเป็นชุด ๆ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงหยุดระหว่างชุด ..... การเห่าแบบนี้เป็นการชี้ชวนเจ้าของให้มาดูบางสิ่งบางอย่าง "เจ้านายมาดูนี่สิ น่าสนใจมากๆ เลย!!"

     •  เห่าเร็ว ๆ ติดต่อกันด้วยโทนเสียงปานกลาง ..... การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าในลักษณะเตือนภัย เพื่อบอกให้รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไม่น่าไว้ใน "อะไรน่ะ ๆๆ!!"
     •  เห่าด้วยเสียงต่ำๆ ติดต่อกันอย่างช้าๆ ..... อันตรายมากๆ เลยทีเดียวการเห่าแบบนี้ เพราะสุนัขกำลังบอกเราว่า ตอนนี้กำลังมีภัยประชิดตัวเขาอยู่ "อย่าเข้ามานะ ช่วยด้วย!!"
     •  เห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ..... การเห่าแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสุนัขที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว เขากำลังบอกกับเราว่า "เฮ้ มีใครอยู่รึเปล่า ตอนนี้ฉันเหงามากเลย มาเล่นกันหน่อยสิ

ปลอกคอกันเห่า สำหรับสุนัข

ปลอกคอกันเห่า ปลอกคอช่วยฝึกหมาให้เห่าน้อยลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงสามารถปรับขนาดสายให้เข้ากับคอสุนัขได้ ภายใน 3-6 วันสุนัขที่ใส่ปลอกคอนี้จะเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละตัว) เมื่อสุนัขเห่า เส้นเสียงจะสั่นสะเทือน ผ่านออกมาที่ลำคอ เมื่อเซนเซอร์ที่เครื่องจับการสั่นสะเทือนนั้นได้ จะส่งคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแต่สัตว์ได้ยินออกมาราวีการเห่าของสุนัข โดยที่สุนัขไม่รู้สึกเจ็บใดใด เพียงรำคาญเท่านั้น เพื่อให้มันเล่าเรียนว่าไม่ควรเห่าเมื่อไม่จำเป็น ปลอกคอนี้จะไม่ทำงาน จากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น
ปลอกคอกันเห่า คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห่า สามารถเลือกใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคหรือคลื่นเสียงปกติได้
- ปลอกคอลดเห่า ปลอดภัยต่อคุณและสัตว์เลี้ยง
- ภายใน 3 - 6 วัน สุนัขจะงูเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- เครื่องจะทำงานเมื่อเซนเซอร์จับเสียงเห่าได้ (เครื่องจะไม่ทำงานจากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น)
- ปลอกคอไฟฟ้า นี้สามารถกันน้ำได้ 100% สุนัขจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปึกแผ่น
- ปรับความยาวสายให้เหมาะกับคอสุนัขได้ทุกขนาด
- ขนาดสินค้า: 65 x 15 x 65 มม.

สำหรับมนุษย์ "การอื้น" เป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน "การเห่า" ก็ถือเป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันของสุนัขเช่นกัน การที่สุนัขเห่าในแต่ละครั้งนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสังเกตให้ดีจะพบว่า ลักษณะการเห่าจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ เช่น เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณบ้าน , เห่าเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ (นก , หนู , งู ฯ) , เห่าเมื่อเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

     และด้วยลักษณะการเห่าที่ต่างกันนี้บ่งบอกถึงสิ่งที่สุนัขต้องการจะติดต่อสื่อสารให้ผู้เลี้ยงรับรู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมสุนัขจึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงว่า ถ้าหากผู้เลี้ยงอยากเข้าใจสุวานของตัวเองมากขึ้น ก็ควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของลักษณะการเห่าในแบบต่างๆ เพื่อที่จะได้ซึมซาบว่าสุนัขต้องการจะบอกอะไรกับเรา ... เพื่อให้คุณผู้เลี้ยงกับสุนัขเข้าใจกันมากขึ้น

    เห่าติดต่อกันเป็นชุด ๆ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงหยุดระหว่างชุด ..... การเห่าแบบนี้เป็นการชี้ชวนเจ้าของให้มาดูบางสิ่งบางอย่าง "เจ้านายมาดูนี่สิ น่าสนใจมากๆ เลย!!"

     •  เห่าเร็ว ๆ ติดต่อกันด้วยโทนเสียงปานกลาง ..... การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าในประเภทเตือนภัย เพื่อบอกให้รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไม่น่าไว้ใน "อะไรน่ะ ๆๆ!!"
     •  เห่าด้วยเสียงต่ำๆ ติดต่อกันอย่างช้าๆ ..... อันตรายมากๆ เลยทีเดียวการเห่าแบบนี้ เพราะสุนัขกำลังบอกเราว่า ตอนนี้กำลังมีภัยประชิดตัวเขาอยู่ "อย่าเข้ามานะ ช่วยด้วย!!"
     •  เห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ..... การเห่าแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสุนัขที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว เขากำลังบอกกับเราว่า "เฮ้ มีใครอยู่รึเปล่า ตอนนี้ฉันเหงามากเลย มาเล่นกันหน่อยสิ"

ปลอกคอกันเห่า ลดอาการเห่า

ปลอกคอกันเห่า ปลอกคอช่วยฝึกสุวานให้เห่าน้อยลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงสามารถปรับขนาดสายให้เข้ากับคอสุนัขได้ ภายใน 3-6 วันสุนัขที่ใส่ปลอกคอนี้จะเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละตัว) เมื่อสุนัขเห่า เส้นเสียงจะสั่นสะเทือน ผ่านออกมาที่ลำคอ เมื่อเซนเซอร์ที่เครื่องจับการสั่นสะเทือนนั้นได้ จะส่งคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแต่สัตว์ได้ยินออกมาราวีการเห่าของสุนัข โดยที่สุนัขไม่รู้สึกเจ็บใดใด เพียงรำคาญเท่านั้น เพื่อให้มันเล่าเรียนว่าไม่ควรเห่าเมื่อไม่จำเป็น ปลอกคอนี้จะไม่ทำงาน จากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น
ปลอกคอกันเห่า คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห่า สามารถเลือกใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคหรือคลื่นเสียงปกติได้
- ปลอกคอลดเห่า ปลอดภัยต่อคุณและสัตว์เลี้ยง
- ภายใน 3 - 6 วัน สุนัขจะหอนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- เครื่องจะทำงานเมื่อเซนเซอร์จับเสียงเห่าได้ (เครื่องจะไม่ทำงานจากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น)
- ปลอกคอไฟฟ้า นี้สามารถกันน้ำได้ 100% สุนัขจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างมั่นคง
- ปรับความยาวสายให้เหมาะกับคอสุนัขได้ทุกขนาด
- ขนาดสินค้า: 65 x 15 x 65 มม.

สำหรับมนุษย์ "การพูดจา" เป็นวิธีการติดต่อหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน "การเห่า" ก็ถือเป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันของสุนัขเช่นกัน การที่สุนัขเห่าในแต่ละครั้งนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสังเกตให้ดีจะพบว่า ลักษณะการเห่าจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ เช่น เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณบ้าน , เห่าเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ (นก , หนู , งู ฯ) , เห่าเมื่อเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

     และด้วยลักษณะการเห่าที่ผิดแผกแตกต่างกันนี้บ่งบอกถึงสิ่งที่สุนัขต้องการจะติดต่อสื่อสารให้ผู้เลี้ยงรับรู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมสุนัขจึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงว่า ถ้าหากผู้เลี้ยงอยากเข้าใจสุวานของตัวเองมากขึ้น ก็ควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของลักษณะการเห่าในแบบต่างๆ เพื่อที่จะได้ฟังออกว่าสุนัขต้องการจะบอกอะไรกับเรา ... เพื่อให้คุณผู้เลี้ยงกับสุนัขเข้าใจกันมากขึ้น

    เห่าติดต่อกันเป็นชุด ๆ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงหยุดระหว่างชุด ..... การเห่าแบบนี้เป็นการชี้ชวนเจ้าของให้มาดูบางสิ่งบางอย่าง "เจ้านายมาดูนี่สิ น่าสนใจมากๆ เลย!!"

     •  เห่าเร็ว ๆ ติดต่อกันด้วยโทนเสียงปานกลาง ..... การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าในรูปพรรณสัณฐานเตือนภัย เพื่อบอกให้รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไม่น่าไว้ใน "อะไรน่ะ ๆๆ!!"
     •  เห่าด้วยเสียงต่ำๆ ติดต่อกันอย่างช้าๆ ..... อันตรายมากๆ เลยทีเดียวการเห่าแบบนี้ เพราะสุนัขกำลังบอกเราว่า ตอนนี้กำลังมีภัยประชิดตัวเขาอยู่ "อย่าเข้ามานะ ช่วยด้วย!!"
     •  เห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ..... การเห่าแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสุนัขที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว เขากำลังบอกกับเราว่า "เฮ้ มีใครอยู่รึเปล่า ตอนนี้ฉันเหงามากเลย มาเล่นกันหน่อยสิ"

ปลอกคอกันเห่า ลดเพฤติกรรมเห่า

ปลอกคอกันเห่า ปลอกคอช่วยฝึกหมาให้เห่าน้อยลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงสามารถปรับขนาดสายให้เข้ากับคอสุนัขได้ ภายใน 3-6 วันสุนัขที่ใส่ปลอกคอนี้จะเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละตัว) เมื่อสุนัขเห่า เส้นเสียงจะสั่นสะเทือน ผ่านออกมาที่ลำคอ เมื่อเซนเซอร์ที่เครื่องจับการสั่นสะเทือนนั้นได้ จะส่งคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแต่สัตว์ได้ยินออกมาแผ้วพานการเห่าของสุนัข โดยที่สุนัขไม่รู้สึกเจ็บใดใด เพียงรำคาญเท่านั้น เพื่อให้มันเรียนรู้ว่าไม่ควรเห่าเมื่อไม่จำเป็น ปลอกคอนี้จะไม่ทำงาน จากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น
ปลอกคอกันเห่า คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห่า สามารถเลือกใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคหรือคลื่นเสียงปกติได้
- ปลอกคอลดเห่า ปลอดภัยต่อคุณและสัตว์เลี้ยง
- ภายใน 3 - 6 วัน สุนัขจะเห่าหอนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- เครื่องจะทำงานเมื่อเซนเซอร์จับเสียงเห่าได้ (เครื่องจะไม่ทำงานจากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น)
- ปลอกคอไฟฟ้า นี้สามารถกันน้ำได้ 100% สุนัขจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างปึกแผ่น
- ปรับความยาวสายให้เหมาะกับคอสุนัขได้ทุกขนาด
- ขนาดสินค้า: 65 x 15 x 65 มม.

สำหรับมนุษย์ "การเปิดปาก" เป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน "การเห่า" ก็ถือเป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันของสุนัขเช่นกัน การที่สุนัขเห่าในแต่ละครั้งนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสังเกตให้ดีจะพบว่า ลักษณะการเห่าจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ เช่น เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณบ้าน , เห่าเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ (นก , หนู , งู ฯ) , เห่าเมื่อเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

     และด้วยลักษณะการเห่าที่ผิดแผกกันนี้บ่งบอกถึงสิ่งที่สุนัขต้องการจะสื่อสารให้ผู้เลี้ยงรับรู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมสุนัขจึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงว่า ถ้าหากผู้เลี้ยงอยากเข้าใจสุนัขของตัวเองมากขึ้น ก็ควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของลักษณะการเห่าในแบบต่างๆ เพื่อที่จะได้ซับซาบว่าสุนัขต้องการจะบอกอะไรกับเรา ... เพื่อให้คุณผู้เลี้ยงกับสุนัขเข้าใจกันมากขึ้น

    เห่าติดต่อกันเป็นชุด ๆ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงหยุดระหว่างชุด ..... การเห่าแบบนี้เป็นการชี้ชวนเจ้าของให้มาดูบางสิ่งบางอย่าง "เจ้านายมาดูนี่สิ น่าสนใจมากๆ เลย!!"

     •  เห่าเร็ว ๆ ติดต่อกันด้วยโทนเสียงปานกลาง ..... การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าในประเภทเตือนภัย เพื่อบอกให้รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไม่น่าไว้ใน "อะไรน่ะ ๆๆ!!"
     •  เห่าด้วยเสียงต่ำๆ ติดต่อกันอย่างช้าๆ ..... อันตรายมากๆ เลยทีเดียวการเห่าแบบนี้ เพราะสุนัขกำลังบอกเราว่า ตอนนี้กำลังมีภัยประชิดตัวเขาอยู่ "อย่าเข้ามานะ ช่วยด้วย!!"
     •  เห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ..... การเห่าแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสุนัขที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว เขากำลังบอกกับเราว่า "เฮ้ มีใครอยู่รึเปล่า ตอนนี้ฉันเหงามากเลย มาเล่นกันหน่อยสิ"

ปลอกคอกันเห่า

ปลอกคอกันเห่า ปลอกคอช่วยฝึกสุนัขให้เห่าน้อยลง โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงสามารถปรับขนาดสายให้เข้ากับคอสุนัขได้ ภายใน 3-6 วันสุนัขที่ใส่ปลอกคอนี้จะเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด (ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปในสุนัขแต่ละตัว) เมื่อสุนัขเห่า เส้นเสียงจะสั่นสะเทือน ผ่านออกมาที่ลำคอ เมื่อเซนเซอร์ที่เครื่องจับการสั่นสะเทือนนั้นได้ จะส่งคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิค ซึ่งเป็นคลื่นเสียงช่วงที่มนุษย์ไม่ได้ยินแต่สัตว์ได้ยินออกมารบกวนการเห่าของสุนัข โดยที่สุนัขไม่รู้สึกเจ็บใดใด เพียงรำคาญเท่านั้น เพื่อให้มันศึกษาเล่าเรียนว่าไม่ควรเห่าเมื่อไม่จำเป็น ปลอกคอนี้จะไม่ทำงาน จากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น
ปลอกคอกันเห่า คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห่า สามารถเลือกใช้คลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคหรือคลื่นเสียงปกติได้
- ปลอกคอลดเห่า ปลอดภัยต่อคุณและสัตว์เลี้ยง
- ภายใน 3 - 6 วัน สุนัขจะงูเห่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- เครื่องจะทำงานเมื่อเซนเซอร์จับเสียงเห่าได้ (เครื่องจะไม่ทำงานจากเสียงเห่าของสุนัขตัวอื่น)
- ปลอกคอไฟฟ้า นี้สามารถกันน้ำได้ 100% สุนัขจึงสามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสถิร
- ปรับความยาวสายให้เหมาะกับคอสุนัขได้ทุกขนาด
- ขนาดสินค้า: 65 x 15 x 65 มม.

สำหรับมนุษย์ "การเอิ้น" เป็นวิธีการติดต่อสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวัน "การเห่า" ก็ถือเป็นวิธีการสื่อสารหลักที่ใช้ในชีวิตประจำวันของสุนัขเช่นกัน การที่สุนัขเห่าในแต่ละครั้งนั้นถ้าหากผู้เลี้ยงสังเกตให้ดีจะพบว่า ลักษณะการเห่าจะแตกต่างออกไปตามปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม ณ เวลานั้นๆ เช่น เห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาบริเวณบ้าน , เห่าเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ (นก , หนู , งู ฯ) , เห่าเมื่อเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เป็นต้น

     และด้วยลักษณะการเห่าที่ผิดแผกแตกต่างกันนี้บ่งบอกถึงสิ่งที่สุนัขต้องการจะติดต่อสื่อสารให้ผู้เลี้ยงรับรู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพฤติกรรมสุนัขจึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงว่า ถ้าหากผู้เลี้ยงอยากเข้าใจสุวานของตัวเองมากขึ้น ก็ควรจะเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของลักษณะการเห่าในแบบต่างๆ เพื่อที่จะได้เห็นประจักษ์ว่าสุนัขต้องการจะบอกอะไรกับเรา ... เพื่อให้คุณผู้เลี้ยงกับสุนัขเข้าใจกันมากขึ้น

    เห่าติดต่อกันเป็นชุด ๆ 3-4 ครั้ง โดยมีช่วงหยุดระหว่างชุด ..... การเห่าแบบนี้เป็นการชี้ชวนเจ้าของให้มาดูบางสิ่งบางอย่าง "เจ้านายมาดูนี่สิ น่าสนใจมากๆ เลย!!"

     •  เห่าเร็ว ๆ ติดต่อกันด้วยโทนเสียงปานกลาง ..... การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าในสัณฐานเตือนภัย เพื่อบอกให้รู้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติไม่น่าไว้ใน "อะไรน่ะ ๆๆ!!"
     •  เห่าด้วยเสียงต่ำๆ ติดต่อกันอย่างช้าๆ ..... อันตรายมากๆ เลยทีเดียวการเห่าแบบนี้ เพราะสุนัขกำลังบอกเราว่า ตอนนี้กำลังมีภัยประชิดตัวเขาอยู่ "อย่าเข้ามานะ ช่วยด้วย!!"
     •  เห่าแล้วหยุด เห่าแล้วหยุด ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ..... การเห่าแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ กับสุนัขที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านตัวเดียว เขากำลังบอกกับเราว่า "เฮ้ มีใครอยู่รึเปล่า ตอนนี้ฉันเหงามากเลย มาเล่นกันหน่อยสิ"

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ปลอกคอกันเห็บ และหมัด

ปลอกคอกันเห็บ และ กำจัดเห็บหมัดบนตัวสุนัข ด้วยส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัดช่วยล้มล้างเห็บหมัดได้ในทันทีและคุ้มกันเหตุหมัดกลับมาได้นานถึง 4 เดือน สามารถปรับ ให้เข้ากับสุนัขทุกขนาดได้ โดยนำไปทาบกับคอสุนัข วัดความยาวให้พอดี แล้วตัดส่วนที่เหลือออก ควรเปลี่ยนปลอกคอทุกๆ 4 เดือนหรือเมื่อความสามารถลดลง หากสังเกตุเห็นอาการแพ้หรือระคายเคืองให้รีบถอดออกทันที และ ควรถอดปลอกคอเมื่ออาบน้ำให้สุนัข และใส่ปลอกคอกลับเมื่อแห้งแล้วเท่านั้น
คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห็บ กำจัดเห็บและหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอกคอสุนัข มีส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัด
- ปลอกคอกันเห็บหมัด กำจัดเห็บหมัดได้เร็วและป้องกันได้นาน
- หากสังเกตุเห็นอาการแพ้ ให้รีบพาสุนัขไปพบแพทย์ทันที
- ควรเก็บปลอกคอนี้ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ความยาว 40 ซม.
"เห็บ" เห็บสุนัข (Brown dog tick) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus ซึ่งจะมี

ลักษณะแตกต่างจากแมลงโดยทั่วไป กล่าวคือ เห็บเต็มวัยมี 8 ขา เช่นเดียวกับแมงมุม แต่ในขณะที่

แมงมุมมีส่วนหัวเห็นได้ชัด เห็บจะไม่มีหัวมีแต่ส่วนที่เป็นปากยื่นออกมาให้ เห็นเท่านั้น เห็บจะใช้ส่วนปาก

ของมันแทงเข้าใต้ผิวหนังและเกาะติดแน่นบนตัวสุนัข แล้วดูดกินเลือดเป็นอาหาร เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา

เป็นปัญหาคู่กับหมามาตั้งแต่เริ่มมีหมาเกิดขึ้นในโลกนี้ก็คงว่าได้ และเชื่อว่าคงอยู่เป็นคู่กัดกันไปตลอดจนกว่าโลกจะแตกดับจึงจะหมดได้  

เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา ที่สร้างความรำคาญใจให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่..ทำให้สุนัขเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต โรคพยาธิในเม็ดเลือด  สร้างความสูญเสีย..ทำให้สุนัขต้องตายก่อนวัยอันควร (ถ้าต้องรักษาโรคต่างๆมากมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินมากอยู่)  ถ้าอย่างนั้นแล้วเราควรจะทำการป้องอย่างสมำเสมอจะดีกว่า  นี้คือคำกล่าวสรุปเปิดตั้งแต่ต้นเลย
                
การควบคุมปริมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดีและจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงสุวาน

ปัญหาของเห็บหมัด

“เห็บหมัด”เป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สุนัขเป็น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต และ โรคพยาธิในเม็ดเลือด สร้างความสูญเสีย ทำให้สุนัขเสียต้องชิวิตก่อนวัยอันควร  ซึ่งจะสังเกตุอาการได้จาก ร่างกายสุนัขผ่ายผอม น้ำหนักลดลง ทั้งที่กินอาหารตามปกติ ต่อมาจะมีไข้ตัวร้อน เบื่ออาหาร ซึมไม่ร่าเริง เหงือก ลิ้นซีด และอาจมีจ้ำตามตัว พบเห็นรอยแผลที่เกิดจากการเกาที่ผิวหนังของสุนัข สืบเนื่องมาจากพิษของน้ำลายเห็บ เมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนมาถึงถึงขั้นสุดท้าย สุนัขจะหยุดกินข้าว อาเจียนเป็นฟองมีสีเหลือง ใต้ใบหูตามตัวมีจุดแดงๆ จ้ำเป็นจุด และเสียชีวิตอย่างฉับพลัน จากการที่ป่วยสะสมมานาน โดยที่ผู้เลี้ยงที่ขาดประสปการณ์จะไม่รู้สึกตัว    การปัดขาเห็บหมัดให้หมดสิ้นไป  ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เพราะมีปัจจัยในหลายส่วนเข้าเกี่ยวข้อง เช่น สภาพดินฟ้าอากาศที่ร้อนชื้นของเมืองไทย ที่เอื้ออำนวย ในการแพร่พันธ์ ของเห็บ และหมัด โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างฤดูร้อน กับฤดูฝนช่วงเดือน เมษายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เห็บหมัด จะแพร่พันธ์ได้เร็ว และมีปริมาณมากที่สุด รวมถึงสถานที่ และวิธีในการเลี้ยง แบบไทยๆที่ง่ายและกล้วยๆ ต่อการไปมาหาสู่ของสุวาน และสัตว์อื่น การขาดการดูแลเอาใจใส่ในการอาบน้ำทำความสะอาดให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ปัญหาเห็บหมัดไม่อาจหมดสิ้นไปได้  ” การสั่งปรืมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข การป้องกันกำจัดลดจำนวน ตั้งแต่แรกย่อมให้ผลดีกว่า ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ที่จะปล่อยให้ ปัญหาเห็บหมัดเรื้อรังจนสายเกินไป ”

ปลอกคอกันเห็บ ซื้อที่ไหนดี

ปลอกคอกันเห็บ และ กำจัดเห็บหมัดบนตัวหมา ด้วยส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัดช่วยฆ่าฟันเห็บหมัดได้เร่งด่วนและคุ้มกันเหตุหมัดกลับมาได้นานถึง 4 เดือน สามารถปรับ ให้เข้ากับสุนัขทุกขนาดได้ โดยนำไปทาบกับคอสุนัข วัดความยาวให้พอดี แล้วตัดส่วนที่เหลือออก ควรเปลี่ยนปลอกคอทุกๆ 4 เดือนหรือเมื่อพลังลดลง หากสังเกตุเห็นอาการแพ้หรือระคายเคืองให้รีบถอดออกทันที และ ควรถอดปลอกคอเมื่ออาบน้ำให้สุนัข และใส่ปลอกคอกลับเมื่อแห้งแล้วเท่านั้น
คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห็บ กำจัดเห็บและหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอกคอสุนัข มีส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัด
- ปลอกคอกันเห็บหมัด กำจัดเห็บหมัดได้เร็วและป้องกันได้นาน
- หากสังเกตุเห็นอาการแพ้ ให้รีบพาสุนัขไปพบแพทย์ทันที
- ควรเก็บปลอกคอนี้ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ความยาว 40 ซม.
"เห็บ" เห็บสุนัข (Brown dog tick) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus ซึ่งจะมี

ลักษณะแตกต่างจากแมลงโดยทั่วไป กล่าวคือ เห็บเต็มวัยมี 8 ขา เช่นเดียวกับแมงมุม แต่ในขณะที่

แมงมุมมีส่วนหัวเห็นได้ชัด เห็บจะไม่มีหัวมีแต่ส่วนที่เป็นปากยื่นออกมาให้ เห็นเท่านั้น เห็บจะใช้ส่วนปาก

ของมันแทงเข้าใต้ผิวหนังและเกาะติดแน่นบนตัวสุนัข แล้วดูดกินเลือดเป็นอาหาร เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา

เป็นปัญหาคู่กับหมามาตั้งแต่เริ่มมีหมาเกิดขึ้นในโลกนี้ก็คงว่าได้ และเชื่อว่าคงอยู่เป็นคู่กัดกันไปตลอดจนกว่าโลกจะแตกดับจึงจะหมดได้  

เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา ที่สร้างความเบื่อให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่..ทำให้สุนัขเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต โรคพยาธิในเม็ดเลือด  สร้างความสูญเสีย..ทำให้สุนัขต้องสิ้นชีพก่อนวัยอันควร (ถ้าต้องรักษาโรคต่างๆมากมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินมากอยู่)  ถ้าอย่างนั้นแล้วเราควรจะทำการป้องอย่างสมำเสมอจะดีกว่า  นี้คือคำกล่าวสรุปเปิดตั้งแต่ต้นเลย
                
การควบคุมปริมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดีและจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงสุวาน

ตัวปัญหาของเห็บหมัด

“เห็บหมัด”เป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สุนัขเป็น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต และ โรคพยาธิในเม็ดเลือด สร้างความสูญเสีย ทำให้สุนัขเสียต้องชิวิตก่อนวัยอันควร  ซึ่งจะสังเกตุอาการได้จาก ร่างกายสุนัขผ่ายผอม น้ำหนักลดลง ทั้งที่กินอาหารตามปกติ ต่อมาจะมีไข้ตัวร้อน เบื่ออาหาร ซึมไม่ร่าเริง เหงือก ลิ้นซีด และอาจมีจ้ำตามตัว พบเห็นรอยแผลที่เกิดจากการเกาที่ผิวหนังของสุนัข สืบเนื่องมาจากพิษของน้ำลายเห็บ เมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนมาถึงถึงขั้นสุดท้าย สุนัขจะหยุดกินข้าว อาเจียนเป็นฟองมีสีเหลือง ใต้ใบหูตามตัวมีจุดแดงๆ จ้ำเป็นจุด และเสียชีวิตอย่างฉับพลัน จากการที่ป่วยสะสมมานาน โดยที่ผู้เลี้ยงที่ขาดประสปการณ์จะไม่รู้สึกตัว    การจำหน่ายเห็บหมัดให้หมดสิ้นไป  ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เพราะมีปัจจัยในหลายส่วนเข้าเกี่ยวข้อง เช่น สภาพโพยมานที่ร้อนชื้นของเมืองไทย ที่เอื้ออำนวย ในการแพร่พันธ์ ของเห็บ และหมัด โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างฤดูร้อน กับฤดูฝนช่วงเดือน เมษายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เห็บหมัด จะแพร่พันธ์ได้เร็ว และมีจำนวนรวมมากที่สุด รวมถึงสถานที่ และวิธีในการเลี้ยง แบบไทยๆที่ง่ายและง่าย ต่อการไปมาหาสู่ของหมา และสัตว์อื่น การขาดการดูแลเอาใจใส่ในการอาบน้ำทำความสะอาดให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ปัญหาเห็บหมัดไม่อาจหมดสิ้นไปได้  ” การบังคับบัญชาปรืมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข การป้องกันกำจัดลดจำนวน ตั้งแต่แรกย่อมให้ผลดีกว่า ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ที่จะปล่อยให้ ปัญหาเห็บหมัดเรื้อรังจนสายเกินไป ”

ปลอกคอกันเห็บ และหมัดด้วยสารจากธรรมชาติ

ปลอกคอกันเห็บ และ กำจัดเห็บหมัดบนตัวสุนัข ด้วยส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัดช่วยปัดขาเห็บหมัดได้โดยพลันและพิทักษ์เหตุหมัดกลับมาได้นานถึง 4 เดือน สามารถปรับ ให้เข้ากับสุนัขทุกขนาดได้ โดยนำไปทาบกับคอสุนัข วัดความยาวให้พอดี แล้วตัดส่วนที่เหลือออก ควรเปลี่ยนปลอกคอทุกๆ 4 เดือนหรือเมื่อความสามารถลดลง หากสังเกตุเห็นอาการแพ้หรือระคายเคืองให้รีบถอดออกทันที และ ควรถอดปลอกคอเมื่ออาบน้ำให้สุนัข และใส่ปลอกคอกลับเมื่อแห้งแล้วเท่านั้น
คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห็บ กำจัดเห็บและหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอกคอสุนัข มีส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัด
- ปลอกคอกันเห็บหมัด กำจัดเห็บหมัดได้เร็วและป้องกันได้นาน
- หากสังเกตุเห็นอาการแพ้ ให้รีบพาสุนัขไปพบแพทย์ทันที
- ควรเก็บปลอกคอนี้ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ความยาว 40 ซม.
"เห็บ" เห็บสุนัข (Brown dog tick) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus ซึ่งจะมี

ลักษณะแตกต่างจากแมลงโดยทั่วไป กล่าวคือ เห็บเต็มวัยมี 8 ขา เช่นเดียวกับแมงมุม แต่ในขณะที่

แมงมุมมีส่วนหัวเห็นได้ชัด เห็บจะไม่มีหัวมีแต่ส่วนที่เป็นปากยื่นออกมาให้ เห็นเท่านั้น เห็บจะใช้ส่วนปาก

ของมันแทงเข้าใต้ผิวหนังและเกาะติดแน่นบนตัวสุนัข แล้วดูดกินเลือดเป็นอาหาร เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา

เป็นปัญหาคู่กับหมามาตั้งแต่เริ่มมีหมาเกิดขึ้นในโลกนี้ก็คงว่าได้ และเชื่อว่าคงอยู่เป็นคู่กัดกันไปตลอดจนกว่าโลกจะแตกดับจึงจะหมดได้ 

เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา ที่สร้างความเบื่อหน่ายให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่..ทำให้สุนัขเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต โรคพยาธิในเม็ดเลือด  สร้างความสูญเสีย..ทำให้สุนัขต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (ถ้าต้องรักษาโรคต่างๆมากมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินมากอยู่)  ถ้าอย่างนั้นแล้วเราควรจะทำการป้องอย่างสมำเสมอจะดีกว่า  นี้คือคำกล่าวสรุปเปิดตั้งแต่ต้นเลย
               
การควบคุมปริมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดีและจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงหมา

อุปสรรคของเห็บหมัด

“เห็บหมัด”เป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สุนัขเป็น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต และ โรคพยาธิในเม็ดเลือด สร้างความสูญเสีย ทำให้สุนัขเสียต้องชิวิตก่อนวัยอันควร  ซึ่งจะสังเกตุอาการได้จาก ร่างกายสุนัขผ่ายผอม น้ำหนักลดลง ทั้งที่กินอาหารตามปกติ ต่อมาจะมีไข้ตัวร้อน เบื่ออาหาร ซึมไม่ร่าเริง เหงือก ลิ้นซีด และอาจมีจ้ำตามตัว พบเห็นรอยแผลที่เกิดจากการเกาที่ผิวหนังของสุนัข สืบเนื่องมาจากพิษของน้ำลายเห็บ เมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนมาถึงถึงขั้นสุดท้าย สุนัขจะหยุดกินข้าว อาเจียนเป็นฟองมีสีเหลือง ใต้ใบหูตามตัวมีจุดแดงๆ จ้ำเป็นจุด และเสียชีวิตอย่างฉับพลัน จากการที่ป่วยสะสมมานาน โดยที่ผู้เลี้ยงที่ขาดประสปการณ์จะไม่รู้สึกตัว    การฆ่าเห็บหมัดให้หมดสิ้นไป  ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เพราะมีปัจจัยในหลายส่วนเข้าเกี่ยวข้อง เช่น สภาพภูมิอากาศที่ร้อนชื้นของเมืองไทย ที่เอื้ออำนวย ในการแพร่พันธ์ ของเห็บ และหมัด โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างฤดูร้อน กับฤดูฝนช่วงเดือน เมษายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เห็บหมัด จะแพร่พันธ์ได้เร็ว และมีโควตามากที่สุด รวมถึงสถานที่ และวิธีในการเลี้ยง แบบไทยๆที่ง่ายและหวานคอแร้ง ต่อการไปมาหาสู่ของสุวาน และสัตว์อื่น การขาดการดูแลเอาใจใส่ในการอาบน้ำทำความสะอาดให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ปัญหาเห็บหมัดไม่อาจหมดสิ้นไปได้  ” การจำกัดปรืมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข การป้องกันกำจัดลดจำนวน ตั้งแต่แรกย่อมให้ผลดีกว่า ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ที่จะปล่อยให้ ปัญหาเห็บหมัดเรื้อรังจนสายเกินไป ”

ปลอกคอกันเห็บ สารสกัดจากพืช

ปลอกคอกันเห็บ และ กำจัดเห็บหมัดบนตัวสุนัข ด้วยส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัดช่วยขจัดเห็บหมัดได้ว่องและปกป้องเหตุหมัดกลับมาได้นานถึง 4 เดือน สามารถปรับ ให้เข้ากับสุนัขทุกขนาดได้ โดยนำไปทาบกับคอสุนัข วัดความยาวให้พอดี แล้วตัดส่วนที่เหลือออก ควรเปลี่ยนปลอกคอทุกๆ 4 เดือนหรือเมื่อสมรรถนะลดลง หากสังเกตุเห็นอาการแพ้หรือระคายเคืองให้รีบถอดออกทันที และ ควรถอดปลอกคอเมื่ออาบน้ำให้สุนัข และใส่ปลอกคอกลับเมื่อแห้งแล้วเท่านั้น
คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห็บ กำจัดเห็บและหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอกคอสุนัข มีส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัด
- ปลอกคอกันเห็บหมัด กำจัดเห็บหมัดได้เร็วและป้องกันได้นาน
- หากสังเกตุเห็นอาการแพ้ ให้รีบพาสุนัขไปพบแพทย์ทันที
- ควรเก็บปลอกคอนี้ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ความยาว 40 ซม.
"เห็บ" เห็บสุนัข (Brown dog tick) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus ซึ่งจะมี

ลักษณะแตกต่างจากแมลงโดยทั่วไป กล่าวคือ เห็บเต็มวัยมี 8 ขา เช่นเดียวกับแมงมุม แต่ในขณะที่

แมงมุมมีส่วนหัวเห็นได้ชัด เห็บจะไม่มีหัวมีแต่ส่วนที่เป็นปากยื่นออกมาให้ เห็นเท่านั้น เห็บจะใช้ส่วนปาก

ของมันแทงเข้าใต้ผิวหนังและเกาะติดแน่นบนตัวสุนัข แล้วดูดกินเลือดเป็นอาหาร เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา

เป็นปัญหาคู่กับหมามาตั้งแต่เริ่มมีหมาเกิดขึ้นในโลกนี้ก็คงว่าได้ และเชื่อว่าคงอยู่เป็นคู่กัดกันไปตลอดจนกว่าโลกจะแตกดับจึงจะหมดได้  

เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา ที่สร้างความเบื่อหน่ายให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่..ทำให้สุนัขเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต โรคพยาธิในเม็ดเลือด  สร้างความสูญเสีย..ทำให้สุนัขต้องม้วยก่อนวัยอันควร (ถ้าต้องรักษาโรคต่างๆมากมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินมากอยู่)  ถ้าอย่างนั้นแล้วเราควรจะทำการป้องอย่างสมำเสมอจะดีกว่า  นี้คือคำกล่าวสรุปเปิดตั้งแต่ต้นเลย
                
การควบคุมปริมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดีและจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงหมา

คำถามของเห็บหมัด

“เห็บหมัด”เป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สุนัขเป็น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต และ โรคพยาธิในเม็ดเลือด สร้างความสูญเสีย ทำให้สุนัขเสียต้องชิวิตก่อนวัยอันควร  ซึ่งจะสังเกตุอาการได้จาก ร่างกายสุนัขผ่ายผอม น้ำหนักลดลง ทั้งที่กินอาหารตามปกติ ต่อมาจะมีไข้ตัวร้อน เบื่ออาหาร ซึมไม่ร่าเริง เหงือก ลิ้นซีด และอาจมีจ้ำตามตัว พบเห็นรอยแผลที่เกิดจากการเกาที่ผิวหนังของสุนัข สืบเนื่องมาจากพิษของน้ำลายเห็บ เมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนมาถึงถึงขั้นสุดท้าย สุนัขจะหยุดกินข้าว อาเจียนเป็นฟองมีสีเหลือง ใต้ใบหูตามตัวมีจุดแดงๆ จ้ำเป็นจุด และเสียชีวิตอย่างฉับพลัน จากการที่ป่วยสะสมมานาน โดยที่ผู้เลี้ยงที่ขาดประสปการณ์จะไม่รู้สึกตัว    การหมากข่วงเห็บหมัดให้หมดสิ้นไป  ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เพราะมีปัจจัยในหลายส่วนเข้าเกี่ยวข้อง เช่น สภาพดินฟ้าอากาศที่ร้อนชื้นของเมืองไทย ที่เอื้ออำนวย ในการแพร่พันธ์ ของเห็บ และหมัด โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างฤดูร้อน กับฤดูฝนช่วงเดือน เมษายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เห็บหมัด จะแพร่พันธ์ได้เร็ว และมีปริมาณมากที่สุด รวมถึงสถานที่ และวิธีในการเลี้ยง แบบไทยๆที่ง่ายและฉลุย ต่อการไปมาหาสู่ของสุนัข และสัตว์อื่น การขาดการดูแลเอาใจใส่ในการอาบน้ำทำความสะอาดให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ปัญหาเห็บหมัดไม่อาจหมดสิ้นไปได้  ” การบังคับบัญชาปรืมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข การป้องกันกำจัดลดจำนวน ตั้งแต่แรกย่อมให้ผลดีกว่า ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ที่จะปล่อยให้ ปัญหาเห็บหมัดเรื้อรังจนสายเกินไป ”

ปลอกคอกันเห็บ คุณภาพดีจากธรรมชาติ

ปลอกคอกันเห็บ และ กำจัดเห็บหมัดบนตัวหมา ด้วยส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัดช่วยมะข่วงเห็บหมัดได้ปุ๊บปั๊บและคุ้มกันเหตุหมัดกลับมาได้นานถึง 4 เดือน สามารถปรับ ให้เข้ากับสุนัขทุกขนาดได้ โดยนำไปทาบกับคอสุนัข วัดความยาวให้พอดี แล้วตัดส่วนที่เหลือออก ควรเปลี่ยนปลอกคอทุกๆ 4 เดือนหรือเมื่อสมรรถนะลดลง หากสังเกตุเห็นอาการแพ้หรือระคายเคืองให้รีบถอดออกทันที และ ควรถอดปลอกคอเมื่ออาบน้ำให้สุนัข และใส่ปลอกคอกลับเมื่อแห้งแล้วเท่านั้น
คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห็บ กำจัดเห็บและหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอกคอสุนัข มีส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัด
- ปลอกคอกันเห็บหมัด กำจัดเห็บหมัดได้เร็วและป้องกันได้นาน
- หากสังเกตุเห็นอาการแพ้ ให้รีบพาสุนัขไปพบแพทย์ทันที
- ควรเก็บปลอกคอนี้ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ความยาว 40 ซม.
"เห็บ" เห็บสุนัข (Brown dog tick) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus ซึ่งจะมี

ลักษณะแตกต่างจากแมลงโดยทั่วไป กล่าวคือ เห็บเต็มวัยมี 8 ขา เช่นเดียวกับแมงมุม แต่ในขณะที่

แมงมุมมีส่วนหัวเห็นได้ชัด เห็บจะไม่มีหัวมีแต่ส่วนที่เป็นปากยื่นออกมาให้ เห็นเท่านั้น เห็บจะใช้ส่วนปาก

ของมันแทงเข้าใต้ผิวหนังและเกาะติดแน่นบนตัวสุนัข แล้วดูดกินเลือดเป็นอาหาร เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา

เป็นปัญหาคู่กับหมามาตั้งแต่เริ่มมีหมาเกิดขึ้นในโลกนี้ก็คงว่าได้ และเชื่อว่าคงอยู่เป็นคู่กัดกันไปตลอดจนกว่าโลกจะแตกดับจึงจะหมดได้  

เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา ที่สร้างความเหม็นเบื่อให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่..ทำให้สุนัขเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต โรคพยาธิในเม็ดเลือด  สร้างความสูญเสีย..ทำให้สุนัขต้องวายชนม์ก่อนวัยอันควร (ถ้าต้องรักษาโรคต่างๆมากมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินมากอยู่)  ถ้าอย่างนั้นแล้วเราควรจะทำการป้องอย่างสมำเสมอจะดีกว่า  นี้คือคำกล่าวสรุปเปิดตั้งแต่ต้นเลย
                
การควบคุมปริมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดีและจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงหมา

ปริศนาของเห็บหมัด

“เห็บหมัด”เป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สุนัขเป็น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต และ โรคพยาธิในเม็ดเลือด สร้างความสูญเสีย ทำให้สุนัขเสียต้องชิวิตก่อนวัยอันควร  ซึ่งจะสังเกตุอาการได้จาก ร่างกายสุนัขผ่ายผอม น้ำหนักลดลง ทั้งที่กินอาหารตามปกติ ต่อมาจะมีไข้ตัวร้อน เบื่ออาหาร ซึมไม่ร่าเริง เหงือก ลิ้นซีด และอาจมีจ้ำตามตัว พบเห็นรอยแผลที่เกิดจากการเกาที่ผิวหนังของสุนัข สืบเนื่องมาจากพิษของน้ำลายเห็บ เมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนมาถึงถึงขั้นสุดท้าย สุนัขจะหยุดกินข้าว อาเจียนเป็นฟองมีสีเหลือง ใต้ใบหูตามตัวมีจุดแดงๆ จ้ำเป็นจุด และเสียชีวิตอย่างฉับพลัน จากการที่ป่วยสะสมมานาน โดยที่ผู้เลี้ยงที่ขาดประสปการณ์จะไม่รู้สึกตัว    การพิฆาตเห็บหมัดให้หมดสิ้นไป  ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เพราะมีปัจจัยในหลายส่วนเข้าเกี่ยวข้อง เช่น สภาพลมฟ้าอากาศที่ร้อนชื้นของเมืองไทย ที่เอื้ออำนวย ในการแพร่พันธ์ ของเห็บ และหมัด โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างฤดูร้อน กับฤดูฝนช่วงเดือน เมษายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เห็บหมัด จะแพร่พันธ์ได้เร็ว และมีโควตามากที่สุด รวมถึงสถานที่ และวิธีในการเลี้ยง แบบไทยๆที่ง่ายและหวานคอแร้ง ต่อการไปมาหาสู่ของหมา และสัตว์อื่น การขาดการดูแลเอาใจใส่ในการอาบน้ำทำความสะอาดให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ปัญหาเห็บหมัดไม่อาจหมดสิ้นไปได้  ” การดูแลปรืมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข การป้องกันกำจัดลดจำนวน ตั้งแต่แรกย่อมให้ผลดีกว่า ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ที่จะปล่อยให้ ปัญหาเห็บหมัดเรื้อรังจนสายเกินไป ”

ปลอกคอกันเห็บ ราคาย่อมเยาว์

ปลอกคอกันเห็บ และ กำจัดเห็บหมัดบนตัวสุนัข ด้วยส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัดช่วยจ่ายเห็บหมัดได้ไวและคุ้มกันเหตุหมัดกลับมาได้นานถึง 4 เดือน สามารถปรับ ให้เข้ากับสุนัขทุกขนาดได้ โดยนำไปทาบกับคอสุนัข วัดความยาวให้พอดี แล้วตัดส่วนที่เหลือออก ควรเปลี่ยนปลอกคอทุกๆ 4 เดือนหรือเมื่อพลังลดลง หากสังเกตุเห็นอาการแพ้หรือระคายเคืองให้รีบถอดออกทันที และ ควรถอดปลอกคอเมื่ออาบน้ำให้สุนัข และใส่ปลอกคอกลับเมื่อแห้งแล้วเท่านั้น
คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห็บ กำจัดเห็บและหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอกคอสุนัข มีส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัด
- ปลอกคอกันเห็บหมัด กำจัดเห็บหมัดได้เร็วและป้องกันได้นาน
- หากสังเกตุเห็นอาการแพ้ ให้รีบพาสุนัขไปพบแพทย์ทันที
- ควรเก็บปลอกคอนี้ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ความยาว 40 ซม.
"เห็บ" เห็บสุนัข (Brown dog tick) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus ซึ่งจะมี

ลักษณะแตกต่างจากแมลงโดยทั่วไป กล่าวคือ เห็บเต็มวัยมี 8 ขา เช่นเดียวกับแมงมุม แต่ในขณะที่

แมงมุมมีส่วนหัวเห็นได้ชัด เห็บจะไม่มีหัวมีแต่ส่วนที่เป็นปากยื่นออกมาให้ เห็นเท่านั้น เห็บจะใช้ส่วนปาก

ของมันแทงเข้าใต้ผิวหนังและเกาะติดแน่นบนตัวสุนัข แล้วดูดกินเลือดเป็นอาหาร เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา

เป็นปัญหาคู่กับหมามาตั้งแต่เริ่มมีหมาเกิดขึ้นในโลกนี้ก็คงว่าได้ และเชื่อว่าคงอยู่เป็นคู่กัดกันไปตลอดจนกว่าโลกจะแตกดับจึงจะหมดได้  

เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา ที่สร้างความรำคาญใจให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่..ทำให้สุนัขเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต โรคพยาธิในเม็ดเลือด  สร้างความสูญเสีย..ทำให้สุนัขต้องม้วยก่อนวัยอันควร (ถ้าต้องรักษาโรคต่างๆมากมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินมากอยู่)  ถ้าอย่างนั้นแล้วเราควรจะทำการป้องอย่างสมำเสมอจะดีกว่า  นี้คือคำกล่าวสรุปเปิดตั้งแต่ต้นเลย
                
การควบคุมปริมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดีและจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงสุนัข

คำถามของเห็บหมัด

“เห็บหมัด”เป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สุนัขเป็น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต และ โรคพยาธิในเม็ดเลือด สร้างความสูญเสีย ทำให้สุนัขเสียต้องชิวิตก่อนวัยอันควร  ซึ่งจะสังเกตุอาการได้จาก ร่างกายสุนัขผ่ายผอม น้ำหนักลดลง ทั้งที่กินอาหารตามปกติ ต่อมาจะมีไข้ตัวร้อน เบื่ออาหาร ซึมไม่ร่าเริง เหงือก ลิ้นซีด และอาจมีจ้ำตามตัว พบเห็นรอยแผลที่เกิดจากการเกาที่ผิวหนังของสุนัข สืบเนื่องมาจากพิษของน้ำลายเห็บ เมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนมาถึงถึงขั้นสุดท้าย สุนัขจะหยุดกินข้าว อาเจียนเป็นฟองมีสีเหลือง ใต้ใบหูตามตัวมีจุดแดงๆ จ้ำเป็นจุด และเสียชีวิตอย่างฉับพลัน จากการที่ป่วยสะสมมานาน โดยที่ผู้เลี้ยงที่ขาดประสปการณ์จะไม่รู้สึกตัว    การไล่เห็บหมัดให้หมดสิ้นไป  ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เพราะมีปัจจัยในหลายส่วนเข้าเกี่ยวข้อง เช่น สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของเมืองไทย ที่เอื้ออำนวย ในการแพร่พันธ์ ของเห็บ และหมัด โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างฤดูร้อน กับฤดูฝนช่วงเดือน เมษายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เห็บหมัด จะแพร่พันธ์ได้เร็ว และมีจำนวนมากที่สุด รวมถึงสถานที่ และวิธีในการเลี้ยง แบบไทยๆที่ง่ายและหวานคอแร้ง ต่อการไปมาหาสู่ของหมา และสัตว์อื่น การขาดการดูแลเอาใจใส่ในการอาบน้ำทำความสะอาดให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ปัญหาเห็บหมัดไม่อาจหมดสิ้นไปได้  ” การกำกับปรืมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข การป้องกันกำจัดลดจำนวน ตั้งแต่แรกย่อมให้ผลดีกว่า ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ที่จะปล่อยให้ ปัญหาเห็บหมัดเรื้อรังจนสายเกินไป ”

ปลอกคอกันเห็บ สารสกัดธรรมชาติ

ปลอกคอกันเห็บ และ กำจัดเห็บหมัดบนตัวสุวาน ด้วยส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัดช่วยปราบปรามเห็บหมัดได้คล่องแคล่วและพิทักษ์เหตุหมัดกลับมาได้นานถึง 4 เดือน สามารถปรับ ให้เข้ากับสุนัขทุกขนาดได้ โดยนำไปทาบกับคอสุนัข วัดความยาวให้พอดี แล้วตัดส่วนที่เหลือออก ควรเปลี่ยนปลอกคอทุกๆ 4 เดือนหรือเมื่อศักยภาพลดลง หากสังเกตุเห็นอาการแพ้หรือระคายเคืองให้รีบถอดออกทันที และ ควรถอดปลอกคอเมื่ออาบน้ำให้สุนัข และใส่ปลอกคอกลับเมื่อแห้งแล้วเท่านั้น
คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห็บ กำจัดเห็บและหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอกคอสุนัข มีส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัด
- ปลอกคอกันเห็บหมัด กำจัดเห็บหมัดได้เร็วและป้องกันได้นาน
- หากสังเกตุเห็นอาการแพ้ ให้รีบพาสุนัขไปพบแพทย์ทันที
- ควรเก็บปลอกคอนี้ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ความยาว 40 ซม.
"เห็บ" เห็บสุนัข (Brown dog tick) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus ซึ่งจะมี

ลักษณะแตกต่างจากแมลงโดยทั่วไป กล่าวคือ เห็บเต็มวัยมี 8 ขา เช่นเดียวกับแมงมุม แต่ในขณะที่

แมงมุมมีส่วนหัวเห็นได้ชัด เห็บจะไม่มีหัวมีแต่ส่วนที่เป็นปากยื่นออกมาให้ เห็นเท่านั้น เห็บจะใช้ส่วนปาก

ของมันแทงเข้าใต้ผิวหนังและเกาะติดแน่นบนตัวสุนัข แล้วดูดกินเลือดเป็นอาหาร เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา

เป็นปัญหาคู่กับหมามาตั้งแต่เริ่มมีหมาเกิดขึ้นในโลกนี้ก็คงว่าได้ และเชื่อว่าคงอยู่เป็นคู่กัดกันไปตลอดจนกว่าโลกจะแตกดับจึงจะหมดได้ 

เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา ที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่..ทำให้สุนัขเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต โรคพยาธิในเม็ดเลือด  สร้างความสูญเสีย..ทำให้สุนัขต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (ถ้าต้องรักษาโรคต่างๆมากมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินมากอยู่)  ถ้าอย่างนั้นแล้วเราควรจะทำการป้องอย่างสมำเสมอจะดีกว่า  นี้คือคำกล่าวสรุปเปิดตั้งแต่ต้นเลย
               
การควบคุมปริมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดีและจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงสุวาน

ตัวปัญหาของเห็บหมัด

“เห็บหมัด”เป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สุนัขเป็น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต และ โรคพยาธิในเม็ดเลือด สร้างความสูญเสีย ทำให้สุนัขเสียต้องชิวิตก่อนวัยอันควร  ซึ่งจะสังเกตุอาการได้จาก ร่างกายสุนัขผ่ายผอม น้ำหนักลดลง ทั้งที่กินอาหารตามปกติ ต่อมาจะมีไข้ตัวร้อน เบื่ออาหาร ซึมไม่ร่าเริง เหงือก ลิ้นซีด และอาจมีจ้ำตามตัว พบเห็นรอยแผลที่เกิดจากการเกาที่ผิวหนังของสุนัข สืบเนื่องมาจากพิษของน้ำลายเห็บ เมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนมาถึงถึงขั้นสุดท้าย สุนัขจะหยุดกินข้าว อาเจียนเป็นฟองมีสีเหลือง ใต้ใบหูตามตัวมีจุดแดงๆ จ้ำเป็นจุด และเสียชีวิตอย่างฉับพลัน จากการที่ป่วยสะสมมานาน โดยที่ผู้เลี้ยงที่ขาดประสปการณ์จะไม่รู้สึกตัว    การเผด็จเห็บหมัดให้หมดสิ้นไป  ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เพราะมีปัจจัยในหลายส่วนเข้าเกี่ยวข้อง เช่น สภาพโพยมานที่ร้อนชื้นของเมืองไทย ที่เอื้ออำนวย ในการแพร่พันธ์ ของเห็บ และหมัด โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างฤดูร้อน กับฤดูฝนช่วงเดือน เมษายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เห็บหมัด จะแพร่พันธ์ได้เร็ว และมีผลรวมมากที่สุด รวมถึงสถานที่ และวิธีในการเลี้ยง แบบไทยๆที่ง่ายและกล้วยๆ ต่อการไปมาหาสู่ของสุวาน และสัตว์อื่น การขาดการดูแลเอาใจใส่ในการอาบน้ำทำความสะอาดให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ปัญหาเห็บหมัดไม่อาจหมดสิ้นไปได้  ” การบังคับบัญชาปรืมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข การป้องกันกำจัดลดจำนวน ตั้งแต่แรกย่อมให้ผลดีกว่า ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ที่จะปล่อยให้ ปัญหาเห็บหมัดเรื้อรังจนสายเกินไป ”


ปลอกคอกันเห็บ

ปลอกคอกันเห็บ และ กำจัดเห็บหมัดบนตัวสุนัข ด้วยส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัดช่วยกำจัดเห็บหมัดได้รวดเร็วและป้องกันเหตุหมัดกลับมาได้นานถึง 4 เดือน สามารถปรับ ให้เข้ากับสุนัขทุกขนาดได้ โดยนำไปทาบกับคอสุนัข วัดความยาวให้พอดี แล้วตัดส่วนที่เหลือออก ควรเปลี่ยนปลอกคอทุกๆ 4 เดือนหรือเมื่อประสิทธิภาพลดลง หากสังเกตุเห็นอาการแพ้หรือระคายเคืองให้รีบถอดออกทันที และ ควรถอดปลอกคอเมื่ออาบน้ำให้สุนัข และใส่ปลอกคอกลับเมื่อแห้งแล้วเท่านั้น
คุณสมบัติ

- ปลอกคอกันเห็บ กำจัดเห็บและหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอกคอสุนัข มีส่วนผสมพิเศษจากน้ำมันพืชสกัด
- ปลอกคอกันเห็บหมัด กำจัดเห็บหมัดได้เร็วและป้องกันได้นาน
- หากสังเกตุเห็นอาการแพ้ ให้รีบพาสุนัขไปพบแพทย์ทันที
- ควรเก็บปลอกคอนี้ไว้ในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงแสงแดด
- ความยาว 40 ซม.
"เห็บ" เห็บสุนัข (Brown dog tick) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rhipicephalus sanguineus ซึ่งจะมี

ลักษณะแตกต่างจากแมลงโดยทั่วไป กล่าวคือ เห็บเต็มวัยมี 8 ขา เช่นเดียวกับแมงมุม แต่ในขณะที่

แมงมุมมีส่วนหัวเห็นได้ชัด เห็บจะไม่มีหัวมีแต่ส่วนที่เป็นปากยื่นออกมาให้ เห็นเท่านั้น เห็บจะใช้ส่วนปาก

ของมันแทงเข้าใต้ผิวหนังและเกาะติดแน่นบนตัวสุนัข แล้วดูดกินเลือดเป็นอาหาร เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา

เป็นปัญหาคู่กับหมามาตั้งแต่เริ่มมีหมาเกิดขึ้นในโลกนี้ก็คงว่าได้ และเชื่อว่าคงอยู่เป็นคู่กัดกันไปตลอดจนกว่าโลกจะแตกดับจึงจะหมดได้ 

                  เห็บหมัดเป็นตัวปัญหา ที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่..ทำให้สุนัขเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต โรคพยาธฺิิิฺในเม็ดเลือด  สร้างความสูญเสีย..ทำให้สุนัขต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (ถ้าต้องรักษาโรคต่างๆมากมายเหล่านี้ก็ต้องใช้เงินมากอยู่)  ถ้าอย่างนั้นแล้วเราควรจะทำการป้องอย่างสมำเสมอจะดีกว่า  นี้คือคำกล่าวสรุปเปิดตั้งแต่ต้นเลย
               
                  การควบคุมปริมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุดจึงเป็นทางออกที่ดีและจำเป็นสำหรับผู้ที่เลี้ยงสุนัข

ปัญหาของเห็บหมัด

“เห็บหมัด”เป็นตัวปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับสุนัขและผู้เลี้ยง และ เป็นสาเหตุในอันดับต้นๆ ที่ทำให้สุนัขเป็น โรคโลหิตจาง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคไต และ โรคพยาธิในเม็ดเลือด สร้างความสูญเสีย ทำให้สุนัขเสียต้องชิวิตก่อนวัยอันควร  ซึ่งจะสังเกตุอาการได้จาก ร่างกายสุนัขผ่ายผอม น้ำหนักลดลง ทั้งที่กินอาหารตามปกติ ต่อมาจะมีไข้ตัวร้อน เบื่ออาหาร ซึมไม่ร่าเริง เหงือก ลิ้นซีด และอาจมีจ้ำตามตัว พบเห็นรอยแผลที่เกิดจากการเกาที่ผิวหนังของสุนัข สืบเนื่องมาจากพิษของน้ำลายเห็บ เมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจนมาถึงถึงขั้นสุดท้าย สุนัขจะหยุดกินข้าว อาเจียนเป็นฟองมีสีเหลือง ใต้ใบหูตามตัวมีจุดแดงๆ จ้ำเป็นจุด และเสียชีวิตอย่างฉับพลัน จากการที่ป่วยสะสมมานาน โดยที่ผู้เลี้ยงที่ขาดประสปการณ์จะไม่รู้สึกตัว    การกำจัดเห็บหมัดให้หมดสิ้นไป  ในความเป็นจริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก  เพราะมีปัจจัยในหลายส่วนเข้าเกี่ยวข้อง เช่น สภาพอากาศที่ร้อนชื้นของเมืองไทย ที่เอื้ออำนวย ในการแพร่พันธ์ ของเห็บ และหมัด โดยเฉพาะรอยต่อระหว่างฤดูร้อน กับฤดูฝนช่วงเดือน เมษายน ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม เห็บหมัด จะแพร่พันธ์ได้เร็ว และมีจำนวนมากที่สุด รวมถึงสถานที่ และวิธีในการเลี้ยง แบบไทยๆที่ง่ายและสดวก ต่อการไปมาหาสู่ของสุนัข และสัตว์อื่น การขาดการดูแลเอาใจใส่ในการอาบน้ำทำความสะอาดให้สุนัขอย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ปัญหาเห็บหมัดไม่อาจหมดสิ้นไปได้  ” การควบคุมปรืมาณเห็บหมัด ให้น้อยที่สุด จึงเป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับผู้เลี้ยงสุนัข การป้องกันกำจัดลดจำนวน ตั้งแต่แรกย่อมให้ผลดีกว่า ง่ายกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า ที่จะปล่อยให้ ปัญหาเห็บหมัดเรื้อรังจนสายเกินไป ”

อาบน้ำแมว อย่างไรไม่ให้เจ็บตัว

อาบน้ำแมว ด้วยกลยุทธ์ง่ายๆ

อาบน้ำแมว สำหรับคนที่รักและเลี้ยงแมวคงจะทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่บริสุทธิ์และมักจะชอบทำความวิสุทธิ์ตัวเองด้วยการเลียขนอยู่บ่อยๆ แต่หลายครั้งที่เจ้าแมวออกไปซุกซนนอกบ้านจนทำให้สังขารของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ นอกจากนี้บางครั้งยังมีคราบสกปรกอย่าง คราบอึ คราบฉี่ ติดอยู่ตามร่างกายโดยที่เจ้าของมองไม่เห็น ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้เป็นที่มาของกลิ่นตัวของแมว และอาจจะหมักหมมจนทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ "การอาบน้ำ" จำเป็นสำหรับแมวเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ  แต่การรดน้ำให้เจ้าแมวเหมียวนั้นอาจจะมีความยากลำบากมากกว่า เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะชอบน้ำสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นในการอาบน้ำอาบท่าให้พวกเขาจึงต้องมีเทคนิคที่จะช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และในวันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ ในการอาบน้ำให้เจ้าเหมียวตัวแสบมาฝากกัน
วิธีอาบน้ำแมว ก่อนอื่นคือเจ้าของจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการอาบน้ำเจ้าเหมียวให้เรียบร้อย โดยอุปกรณ์ก็จะมีดังนี้
1. อ่างอาบน้ำขนาดกลาง
2. ฟองน้ำก้อนใหญ่
3. ผ้ายางปูพื้นอ่างเพื่อกันลื่น
4. ผ้าขนหนู
5. แชมพูอาบน้ำแมวที่มีความสุภาพ และอาจจะเลือกสูตรระแวดระวังเห็บหมัดก็ได้ ส่วนแชมพูของคนอาจจะทำให้ผิวหนังของแมวแห้งและเกิดปัญหาของผิวหนังและขนตามมาได้ ช่วงเวลาในการอาบน้ำให้แมวก็เป็นสิ่งสำคัญ เจ้าของควรเลือกอาบน้ำให้เจ้าเหมียวในวันที่มีแดดอ่อน ๆ เพราะถ้าอาบตอนอากาศเย็นหรือชื้นแมวจะหนาว อาจเป็นหวัดหรือปอดบวมได้ หลังจากเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำพร้อมแล้ว ก่อนอาบน้ำเจ้าของควรตัดเล็บส่วนที่แหลมๆ ของเจ้าเหมียวออกเสียก่อน ป้องกันเขาดิ้นหนีและข่วนเราได้จากนั้นเลือกสถานที่ในการอาบน้ำ โดยจะต้องเป็นที่ที่ไม่มีลมโกรกมากจนเกินไป ก่อนการอาบน้ำแนะนำให้แปรงขนน้องแมวก่อนเพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้ว และเศษสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเส้นขนออก จากนั้นเปิดน้ำใส่อ่างให้น้ำมีปริมาณประมาณ 1 ฝ่ามือก็พอ น้ำที่อาบก็ควรเป็นน้ำทีมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายแมว คือประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส เมื่อเตรียมน้ำเสร็จแล้วให้ค่อยๆ จับเจ้าเหมียวลงอ่างที่ปูรองด้วยแผ่นกันเลื่อนไว้แล้ว  จากนั้นให้เจ้าของใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำแล้วลูบตามตัวเจ้าเหมียว โดยให้ลูบย้อนขนให้เปียกทั่วตัว เมื่อตัวแมวเปียกแล้วระวังอย่าให้น้ำเข้าหน้าและหูของเขา ผสมแชมพูกับน้ำอุ่นแล้วนำแชมพูมาลูบให้ทั่วตัวแมว นวดเบาๆ ให้เกิดฟอง (อย่าเกาเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ผิวหนังของแมวอักเสบได้) ระวังอย่าให้แชมพูเข้า ตา หู จมูก ของเจ้าเหมียวด้วย เมื่อฟอกสบู่จนวิมลแล้วให้ใช้น้ำอุ่นล้างแชมพูออกให้หมด และนำเจ้าเหมียวขึ้นจากอ่างมาเช็ดตัวโดยห่อผ้าขนหนูให้รอบตัวเจ้าเหมียว เช็ดทำความสะอาดให้น้ำแห้งโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและส่วนหัว และเพื่อให้ขนแห้งสนิทไม่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังที่จะตามมาในภายหลัง ให้ปล่อยเจ้าเหมียวไว้ในห้องที่เปิดพัดลมเอาไว้เพื่อให้ขนแห้ง แต่สำหรับเจ้าเหมียวที่ไม่กลัวเสียงไดร์ ให้ใช้ไดร์ลมอ่อน ๆ เล่นจนขนแห้งสนิท แปรงขนให้พวกเขาอีกครั้งหลังล้างตัว หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็จะง่วนกับการจัดแต่งขนตัวเอง แค่นี้การอาบน้ำแมวก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การอาบน้ำแมว เจ้าของไม่ทำเป็นต้องทำบ่อย แต่ควรทำการแปรงขนให้พวกเขาอย่างเป็นปรกติ การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้ง และหากทำให้ขนแห้งได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมาได้

   อาบน้ำแมว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างทุกข์ยากเสียเหลือเกินสำหรับไม่ชำนาญ เวลาอาบน้ำหรือตัดเล็บให้แมว เพราะด้วยความดื้อ อยู่ไม่ติดที่ของเจ้าเหมียว และบ่อยครั้งที่จะฝากรอยเล็บให้กับเจ้าของอยู่เป็นประจำ วิธีแก้ปัญหานี้ โดยใช้ถุง Cat Grooming Bag เมื่อจับเจ้าเหมียวใส่ลงไปในถุงปัญหาข้างต้นก็จะหมดไป


อาบน้ำแมว ด้วยตัวคุณเอง

อาบน้ำแมว ด้วยเทคนิคง่ายๆ

อาบน้ำแมว สำหรับคนที่รักและเลี้ยงแมวคงจะทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่พิสุทธิ์และมักจะชอบทำความดีงามตัวเองด้วยการเลียขนอยู่บ่อยๆ แต่หลายครั้งที่เจ้าแมวออกไปซุกซนนอกบ้านจนทำให้ร่างของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ นอกจากนี้บางครั้งยังมีคราบสกปรกอย่าง คราบอึ คราบฉี่ ติดอยู่ตามร่างกายโดยที่เจ้าของมองไม่เห็น ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้เป็นที่มาของกลิ่นตัวของแมว และอาจจะหมักหมมจนทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ "การอาบน้ำ" จำเป็นสำหรับแมวเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ  แต่การทำความสะอาดร่างกายให้เจ้าแมวเหมียวนั้นอาจจะมีความยากลำบากมากกว่า เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะชอบน้ำสักเท่าไหร่ โดยเหตุนั้นในการอาบน้ำอาบท่าให้พวกเขาจึงต้องมีเทคนิคที่จะช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และในวันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ ในการอาบน้ำให้เจ้าเหมียวตัวแสบมาฝากกัน
วิธีอาบน้ำแมว ก่อนอื่นคือเจ้าของจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการอาบน้ำเจ้าเหมียวให้เรียบร้อย โดยอุปกรณ์ก็จะมีดังนี้
1. อ่างอาบน้ำขนาดกลาง
2. ฟองน้ำก้อนใหญ่
3. ผ้ายางปูพื้นอ่างเพื่อกันลื่น
4. ผ้าขนหนู
5. แชมพูอาบน้ำแมวที่มีความละมุนละไม และอาจจะเลือกสูตรรักษาเห็บหมัดก็ได้ ส่วนแชมพูของคนอาจจะทำให้หนังของแมวแห้งและเกิดปัญหาของผิวหนังและขนตามมาได้ ช่วงเวลาในการอาบน้ำให้แมวก็เป็นสิ่งเด่น เจ้าของควรเลือกอาบน้ำให้เจ้าเหมียวในวันที่มีแดดอ่อน ๆ เพราะถ้าอาบตอนอากาศเย็นหรือชื้นแมวจะหนาว อาจเป็นหวัดหรือปอดบวมได้ หลังจากเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำพร้อมแล้ว ก่อนอาบน้ำเจ้าของควรตัดเล็บส่วนที่แหลมๆ ของเจ้าเหมียวออกเสียก่อน ป้องกันเขาดิ้นหนีและข่วนเราได้จากนั้นเลือกสถานที่ในการอาบน้ำ โดยจะต้องเป็นที่ที่ไม่มีลมโกรกมากจนเกินไป ก่อนการอาบน้ำแนะนำให้แปรงขนน้องแมวก่อนเพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้ว และเศษสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเส้นขนออก จากนั้นเปิดน้ำใส่อ่างให้น้ำมีปริมาณประมาณ 1 ฝ่ามือก็พอ น้ำที่อาบก็ควรเป็นน้ำทีมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายแมว คือประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส เมื่อเตรียมน้ำเสร็จแล้วให้ค่อยๆ จับเจ้าเหมียวลงอ่างที่ปูรองด้วยแผ่นกันเลื่อนไว้แล้ว  จากนั้นให้เจ้าของใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำแล้วลูบตามตัวเจ้าเหมียว โดยให้ลูบย้อนขนให้เปียกทั่วตัว เมื่อตัวแมวเปียกชุ่มแล้วระวังอย่าให้น้ำเข้าหน้าและหูของเขา ผสมแชมพูกับน้ำอุ่นแล้วนำแชมพูมาลูบให้ทั่วตัวแมว นวดเบาๆ ให้เกิดฟอง (อย่าเกาเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ผิวหนังของแมวอักเสบได้) ระวังอย่าให้แชมพูเข้า ตา หู จมูก ของเจ้าเหมียวด้วย เมื่อฟอกสบู่จนวิมลแล้วให้ใช้น้ำอุ่นล้างแชมพูออกให้หมด และนำเจ้าเหมียวขึ้นจากอ่างมาเช็ดตัวโดยห่อผ้าขนหนูให้รอบตัวเจ้าเหมียว เช็ดทำความสะอาดให้น้ำแห้งโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและส่วนหัว และเพื่อให้ขนแห้งสนิทไม่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังที่จะตามมาในภายหลัง ให้ปล่อยเจ้าเหมียวไว้ในห้องที่เปิดพัดลมเอาไว้เพื่อให้ขนแห้ง แต่สำหรับเจ้าเหมียวที่ไม่กลัวเสียงไดร์ ให้ใช้ไดร์ลมอ่อน ๆ เล่นจนขนแห้งสนิท แปรงขนให้พวกเขาอีกครั้งหลังอาบน้ำอาบท่า หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็จะง่วนกับการจัดแต่งขนตัวเอง แค่นี้การอาบน้ำแมวก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การอาบน้ำแมว เจ้าของไม่ทำเป็นต้องทำบ่อย แต่ควรทำการแปรงขนให้พวกเขาอย่างบ่อย การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้ง และหากทำให้ขนแห้งได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมาได้ 

   อาบน้ำแมว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากแค้นเสียเหลือเกินสำหรับไม่ชำนาญ เวลาอาบน้ำหรือตัดเล็บให้แมว เพราะด้วยความดื้อ อยู่ไม่ติดที่ของเจ้าเหมียว และบ่อยครั้งที่จะฝากรอยเล็บให้กับเจ้าของอยู่เป็นประจำ วิธีแก้ปัญหานี้ โดยใช้ถุง Cat Grooming Bag เมื่อจับเจ้าเหมียวใส่ลงไปในถุงปัญหาข้างต้นก็จะหมดไป

อาบน้ำแมว ง่ายๆด้วยถุงอาบน้ำ

อาบน้ำแมว ด้วยเทคนิคง่ายๆ

อาบน้ำแมว สำหรับคนที่รักและเลี้ยงแมวคงจะทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่บริสุทธ์และมักจะชอบทำความเกลี้ยงตัวเองด้วยการเลียขนอยู่บ่อยๆ แต่หลายครั้งที่เจ้าแมวออกไปซุกซนนอกบ้านจนทำให้ร่างของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ นอกจากนี้บางครั้งยังมีคราบสกปรกอย่าง คราบอึ คราบฉี่ ติดอยู่ตามร่างกายโดยที่เจ้าของมองไม่เห็น ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้เป็นที่มาของกลิ่นตัวของแมว และอาจจะหมักหมมจนทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ "การอาบน้ำ" จำเป็นสำหรับแมวเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ  แต่การชำระล้างร่างกายให้เจ้าแมวเหมียวนั้นอาจจะมีความยากลำบากมากกว่า เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะชอบน้ำสักเท่าไหร่ โดยเหตุนั้นในการสรงน้ำให้พวกเขาจึงต้องมีเทคนิคที่จะช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และในวันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ ในการอาบน้ำให้เจ้าเหมียวตัวแสบมาฝากกัน
วิธีอาบน้ำแมว ก่อนอื่นคือเจ้าของจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการอาบน้ำเจ้าเหมียวให้เรียบร้อย โดยอุปกรณ์ก็จะมีดังนี้
1. อ่างอาบน้ำขนาดกลาง
2. ฟองน้ำก้อนใหญ่
3. ผ้ายางปูพื้นอ่างเพื่อกันลื่น
4. ผ้าขนหนู
5. แชมพูอาบน้ำแมวที่มีความละเมียดละไม และอาจจะเลือกสูตรรักษาเห็บหมัดก็ได้ ส่วนแชมพูของคนอาจจะทำให้ผิวหนังของแมวแห้งและเกิดปัญหาของผิวหนังและขนตามมาได้ ช่วงเวลาในการอาบน้ำให้แมวก็เป็นสิ่งเด่น เจ้าของควรเลือกอาบน้ำให้เจ้าเหมียวในวันที่มีแดดอ่อน ๆ เพราะถ้าอาบตอนอากาศเย็นหรือชื้นแมวจะหนาว อาจเป็นหวัดหรือปอดบวมได้ หลังจากเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำพร้อมแล้ว ก่อนอาบน้ำเจ้าของควรตัดเล็บส่วนที่แหลมๆ ของเจ้าเหมียวออกเสียก่อน ป้องกันเขาดิ้นหนีและข่วนเราได้จากนั้นเลือกสถานที่ในการอาบน้ำ โดยจะต้องเป็นที่ที่ไม่มีลมโกรกมากจนเกินไป ก่อนการอาบน้ำแนะนำให้แปรงขนน้องแมวก่อนเพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้ว และเศษสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเส้นขนออก จากนั้นเปิดน้ำใส่อ่างให้น้ำมีปริมาณประมาณ 1 ฝ่ามือก็พอ น้ำที่อาบก็ควรเป็นน้ำทีมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายแมว คือประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส เมื่อเตรียมน้ำเสร็จแล้วให้ค่อยๆ จับเจ้าเหมียวลงอ่างที่ปูรองด้วยแผ่นกันเลื่อนไว้แล้ว  จากนั้นให้เจ้าของใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำแล้วลูบตามตัวเจ้าเหมียว โดยให้ลูบย้อนขนให้เปียกทั่วตัว เมื่อตัวแมวโชกแล้วระวังอย่าให้น้ำเข้าหน้าและหูของเขา ผสมแชมพูกับน้ำอุ่นแล้วนำแชมพูมาลูบให้ทั่วตัวแมว นวดเบาๆ ให้เกิดฟอง (อย่าเกาเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ผิวหนังของแมวอักเสบได้) ระวังอย่าให้แชมพูเข้า ตา หู จมูก ของเจ้าเหมียวด้วย เมื่อฟอกสบู่จนเกลี้ยงแล้วให้ใช้น้ำอุ่นล้างแชมพูออกให้หมด และนำเจ้าเหมียวขึ้นจากอ่างมาเช็ดตัวโดยห่อผ้าขนหนูให้รอบตัวเจ้าเหมียว เช็ดทำความสะอาดให้น้ำแห้งโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและส่วนหัว และเพื่อให้ขนแห้งสนิทไม่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังที่จะตามมาในภายหลัง ให้ปล่อยเจ้าเหมียวไว้ในห้องที่เปิดพัดลมเอาไว้เพื่อให้ขนแห้ง แต่สำหรับเจ้าเหมียวที่ไม่กลัวเสียงไดร์ ให้ใช้ไดร์ลมอ่อน ๆ เป่าจนขนแห้งสนิท แปรงขนให้พวกเขาอีกครั้งหลังลงสรง หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็จะง่วนกับการจัดแต่งขนตัวเอง แค่นี้การอาบน้ำแมวก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การอาบน้ำแมว เจ้าของไม่ทำเป็นต้องทำบ่อย แต่ควรทำการแปรงขนให้พวกเขาอย่างเสมอๆ การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้ง และหากทำให้ขนแห้งได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมาได้

   อาบน้ำแมว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างขาดแคลนเสียเหลือเกินสำหรับเริ่มหัด เวลาอาบน้ำหรือตัดเล็บให้แมว เพราะด้วยความดื้อ อยู่ไม่ติดที่ของเจ้าเหมียว และบ่อยครั้งที่จะฝากรอยเล็บให้กับเจ้าของอยู่เป็นประจำ วิธีแก้ปัญหานี้ โดยใช้ถุง Cat Grooming Bag เมื่อจับเจ้าเหมียวใส่ลงไปในถุงปัญหาข้างต้นก็จะหมดไป

อาบน้ำแมว แบบไม่เจ็บตัว

อาบน้ำแมว ด้วยเคล็ดง่ายๆ

อาบน้ำแมว สำหรับคนที่รักและเลี้ยงแมวคงจะทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่บริสุทธ์และมักจะชอบทำความหมดจดตัวเองด้วยการเลียขนอยู่บ่อยๆ แต่หลายครั้งที่เจ้าแมวออกไปซุกซนนอกบ้านจนทำให้เรือนร่างของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ นอกจากนี้บางครั้งยังมีคราบสกปรกอย่าง คราบอึ คราบฉี่ ติดอยู่ตามร่างกายโดยที่เจ้าของมองไม่เห็น ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้เป็นที่มาของกลิ่นตัวของแมว และอาจจะหมักหมมจนทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ "การอาบน้ำ" จำเป็นสำหรับแมวเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ  แต่การสรงน้ำให้เจ้าแมวเหมียวนั้นอาจจะมีความยากลำบากมากกว่า เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะชอบน้ำสักเท่าไหร่ ฉะนั้นในการอาบน้ำให้พวกเขาจึงต้องมีเทคนิคที่จะช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และในวันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ ในการอาบน้ำให้เจ้าเหมียวตัวแสบมาฝากกัน
วิธีอาบน้ำแมว ก่อนอื่นคือเจ้าของจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการอาบน้ำเจ้าเหมียวให้เรียบร้อย โดยอุปกรณ์ก็จะมีดังนี้
1. อ่างอาบน้ำขนาดกลาง
2. ฟองน้ำก้อนใหญ่
3. ผ้ายางปูพื้นอ่างเพื่อกันลื่น
4. ผ้าขนหนู
5. แชมพูอาบน้ำแมวที่มีความละม่อม และอาจจะเลือกสูตรคุ้มครองเห็บหมัดก็ได้ ส่วนแชมพูของคนอาจจะทำให้ผิวหนังของแมวแห้งและเกิดปัญหาของผิวหนังและขนตามมาได้ ช่วงเวลาในการอาบน้ำให้แมวก็เป็นสิ่งเด่น เจ้าของควรเลือกอาบน้ำให้เจ้าเหมียวในวันที่มีแดดอ่อน ๆ เพราะถ้าอาบตอนอากาศเย็นหรือชื้นแมวจะหนาว อาจเป็นหวัดหรือปอดบวมได้ หลังจากเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำพร้อมแล้ว ก่อนอาบน้ำเจ้าของควรตัดเล็บส่วนที่แหลมๆ ของเจ้าเหมียวออกเสียก่อน ป้องกันเขาดิ้นหนีและข่วนเราได้จากนั้นเลือกสถานที่ในการอาบน้ำ โดยจะต้องเป็นที่ที่ไม่มีลมโกรกมากจนเกินไป ก่อนการอาบน้ำแนะนำให้แปรงขนน้องแมวก่อนเพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้ว และเศษสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเส้นขนออก จากนั้นเปิดน้ำใส่อ่างให้น้ำมีปริมาณประมาณ 1 ฝ่ามือก็พอ น้ำที่อาบก็ควรเป็นน้ำทีมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายแมว คือประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส เมื่อเตรียมน้ำเสร็จแล้วให้ค่อยๆ จับเจ้าเหมียวลงอ่างที่ปูรองด้วยแผ่นกันเลื่อนไว้แล้ว  จากนั้นให้เจ้าของใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำแล้วลูบตามตัวเจ้าเหมียว โดยให้ลูบย้อนขนให้เปียกทั่วตัว เมื่อตัวแมวโชกแล้วระวังอย่าให้น้ำเข้าหน้าและหูของเขา ผสมแชมพูกับน้ำอุ่นแล้วนำแชมพูมาลูบให้ทั่วตัวแมว นวดเบาๆ ให้เกิดฟอง (อย่าเกาเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ผิวหนังของแมวอักเสบได้) ระวังอย่าให้แชมพูเข้า ตา หู จมูก ของเจ้าเหมียวด้วย เมื่อฟอกสบู่จนสุกใสแล้วให้ใช้น้ำอุ่นล้างแชมพูออกให้หมด และนำเจ้าเหมียวขึ้นจากอ่างมาเช็ดตัวโดยห่อผ้าขนหนูให้รอบตัวเจ้าเหมียว เช็ดทำความสะอาดให้น้ำแห้งโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและส่วนหัว และเพื่อให้ขนแห้งสนิทไม่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังที่จะตามมาในภายหลัง ให้ปล่อยเจ้าเหมียวไว้ในห้องที่เปิดพัดลมเอาไว้เพื่อให้ขนแห้ง แต่สำหรับเจ้าเหมียวที่ไม่กลัวเสียงไดร์ ให้ใช้ไดร์ลมอ่อน ๆ เป่าจนขนแห้งสนิท แปรงขนให้พวกเขาอีกครั้งหลังชำระล้าง หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็จะง่วนกับการจัดแต่งขนตัวเอง แค่นี้การอาบน้ำแมวก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การอาบน้ำแมว เจ้าของไม่ทำเป็นต้องทำบ่อย แต่ควรทำการแปรงขนให้พวกเขาอย่างนิจ การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้ง และหากทำให้ขนแห้งได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมาได้

   อาบน้ำแมว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างทุเสียเหลือเกินสำหรับเริ่มหัด เวลาอาบน้ำหรือตัดเล็บให้แมว เพราะด้วยความดื้อ อยู่ไม่ติดที่ของเจ้าเหมียว และบ่อยครั้งที่จะฝากรอยเล็บให้กับเจ้าของอยู่เป็นประจำ วิธีแก้ปัญหานี้ โดยใช้ถุง Cat Grooming Bag เมื่อจับเจ้าเหมียวใส่ลงไปในถุงปัญหาข้างต้นก็จะหมดไป


อาบน้ำแมว ด้วยถุงอาบน้ำแมว

อาบน้ำแมว ด้วยเทคนิคง่ายๆ

อาบน้ำแมว สำหรับคนที่รักและเลี้ยงแมวคงจะทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่บริสุทธิ์และมักจะชอบทำความสะอาดตัวเองด้วยการเลียขนอยู่บ่อยๆ แต่หลายครั้งที่เจ้าแมวออกไปซุกซนนอกบ้านจนทำให้รูปของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ นอกจากนี้บางครั้งยังมีคราบสกปรกอย่าง คราบอึ คราบฉี่ ติดอยู่ตามร่างกายโดยที่เจ้าของมองไม่เห็น ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้เป็นที่มาของกลิ่นตัวของแมว และอาจจะหมักหมมจนทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ "การอาบน้ำ" จำเป็นสำหรับแมวเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ  แต่การอาบน้ำอาบท่าให้เจ้าแมวเหมียวนั้นอาจจะมีความยากลำบากมากกว่า เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะชอบน้ำสักเท่าไหร่ โดยเหตุนั้นในการชำระล้างร่างกายให้พวกเขาจึงต้องมีเทคนิคที่จะช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และในวันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ ในการอาบน้ำให้เจ้าเหมียวตัวแสบมาฝากกัน
วิธีอาบน้ำแมว ก่อนอื่นคือเจ้าของจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการอาบน้ำเจ้าเหมียวให้เรียบร้อย โดยอุปกรณ์ก็จะมีดังนี้
1. อ่างอาบน้ำขนาดกลาง
2. ฟองน้ำก้อนใหญ่
3. ผ้ายางปูพื้นอ่างเพื่อกันลื่น
4. ผ้าขนหนู
5. แชมพูอาบน้ำแมวที่มีความละเมียด และอาจจะเลือกสูตรรักษาเห็บหมัดก็ได้ ส่วนแชมพูของคนอาจจะทำให้ผิวหนังของแมวแห้งและเกิดปัญหาของผิวหนังและขนตามมาได้ ช่วงเวลาในการอาบน้ำให้แมวก็เป็นสิ่งเด่น เจ้าของควรเลือกอาบน้ำให้เจ้าเหมียวในวันที่มีแดดอ่อน ๆ เพราะถ้าอาบตอนอากาศเย็นหรือชื้นแมวจะหนาว อาจเป็นหวัดหรือปอดบวมได้ หลังจากเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำพร้อมแล้ว ก่อนอาบน้ำเจ้าของควรตัดเล็บส่วนที่แหลมๆ ของเจ้าเหมียวออกเสียก่อน ป้องกันเขาดิ้นหนีและข่วนเราได้จากนั้นเลือกสถานที่ในการอาบน้ำ โดยจะต้องเป็นที่ที่ไม่มีลมโกรกมากจนเกินไป ก่อนการอาบน้ำแนะนำให้แปรงขนน้องแมวก่อนเพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้ว และเศษสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเส้นขนออก จากนั้นเปิดน้ำใส่อ่างให้น้ำมีปริมาณประมาณ 1 ฝ่ามือก็พอ น้ำที่อาบก็ควรเป็นน้ำทีมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายแมว คือประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส เมื่อเตรียมน้ำเสร็จแล้วให้ค่อยๆ จับเจ้าเหมียวลงอ่างที่ปูรองด้วยแผ่นกันเลื่อนไว้แล้ว  จากนั้นให้เจ้าของใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำแล้วลูบตามตัวเจ้าเหมียว โดยให้ลูบย้อนขนให้เปียกทั่วตัว เมื่อตัวแมวโชกแล้วระวังอย่าให้น้ำเข้าหน้าและหูของเขา ผสมแชมพูกับน้ำอุ่นแล้วนำแชมพูมาลูบให้ทั่วตัวแมว นวดเบาๆ ให้เกิดฟอง (อย่าเกาเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ผิวหนังของแมวอักเสบได้) ระวังอย่าให้แชมพูเข้า ตา หู จมูก ของเจ้าเหมียวด้วย เมื่อฟอกสบู่จนวิสุทธิ์แล้วให้ใช้น้ำอุ่นล้างแชมพูออกให้หมด และนำเจ้าเหมียวขึ้นจากอ่างมาเช็ดตัวโดยห่อผ้าขนหนูให้รอบตัวเจ้าเหมียว เช็ดทำความสะอาดให้น้ำแห้งโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและส่วนหัว และเพื่อให้ขนแห้งสนิทไม่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังที่จะตามมาในภายหลัง ให้ปล่อยเจ้าเหมียวไว้ในห้องที่เปิดพัดลมเอาไว้เพื่อให้ขนแห้ง แต่สำหรับเจ้าเหมียวที่ไม่กลัวเสียงไดร์ ให้ใช้ไดร์ลมอ่อน ๆ เป่าจนขนแห้งสนิท แปรงขนให้พวกเขาอีกครั้งหลังลงสรง หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็จะง่วนกับการจัดแต่งขนตัวเอง แค่นี้การอาบน้ำแมวก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การอาบน้ำแมว เจ้าของไม่ทำเป็นต้องทำบ่อย แต่ควรทำการแปรงขนให้พวกเขาอย่างเป็นปรกติ การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้ง และหากทำให้ขนแห้งได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมาได้ 

   อาบน้ำแมว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างคับแค้นเสียเหลือเกินสำหรับเริ่มหัด เวลาอาบน้ำหรือตัดเล็บให้แมว เพราะด้วยความดื้อ อยู่ไม่ติดที่ของเจ้าเหมียว และบ่อยครั้งที่จะฝากรอยเล็บให้กับเจ้าของอยู่เป็นประจำ วิธีแก้ปัญหานี้ โดยใช้ถุง Cat Grooming Bag เมื่อจับเจ้าเหมียวใส่ลงไปในถุงปัญหาข้างต้นก็จะหมดไป

อาบน้ำแมว ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง

อาบน้ำแมว ด้วยเคล็ดง่ายๆ

อาบน้ำแมว สำหรับคนที่รักและเลี้ยงแมวคงจะทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่พิสุทธิ์และมักจะชอบทำความดีงามตัวเองด้วยการเลียขนอยู่บ่อยๆ แต่หลายครั้งที่เจ้าแมวออกไปซุกซนนอกบ้านจนทำให้รูปของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ นอกจากนี้บางครั้งยังมีคราบสกปรกอย่าง คราบอึ คราบฉี่ ติดอยู่ตามร่างกายโดยที่เจ้าของมองไม่เห็น ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้เป็นที่มาของกลิ่นตัวของแมว และอาจจะหมักหมมจนทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ "การอาบน้ำ" จำเป็นสำหรับแมวเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ  แต่การอาบน้ำอาบท่าให้เจ้าแมวเหมียวนั้นอาจจะมีความยากลำบากมากกว่า เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะชอบน้ำสักเท่าไหร่ เพราะเช่นนั้นในการรดน้ำให้พวกเขาจึงต้องมีเทคนิคที่จะช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และในวันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ ในการอาบน้ำให้เจ้าเหมียวตัวแสบมาฝากกัน
วิธีอาบน้ำแมว ก่อนอื่นคือเจ้าของจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการอาบน้ำเจ้าเหมียวให้เรียบร้อย โดยอุปกรณ์ก็จะมีดังนี้
1. อ่างอาบน้ำขนาดกลาง
2. ฟองน้ำก้อนใหญ่
3. ผ้ายางปูพื้นอ่างเพื่อกันลื่น
4. ผ้าขนหนู
5. แชมพูอาบน้ำแมวที่มีความละม่อม และอาจจะเลือกสูตรระแวดระวังเห็บหมัดก็ได้ ส่วนแชมพูของคนอาจจะทำให้หนังของแมวแห้งและเกิดปัญหาของผิวหนังและขนตามมาได้ ช่วงเวลาในการอาบน้ำให้แมวก็เป็นสิ่งเด่น เจ้าของควรเลือกอาบน้ำให้เจ้าเหมียวในวันที่มีแดดอ่อน ๆ เพราะถ้าอาบตอนอากาศเย็นหรือชื้นแมวจะหนาว อาจเป็นหวัดหรือปอดบวมได้ หลังจากเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำพร้อมแล้ว ก่อนอาบน้ำเจ้าของควรตัดเล็บส่วนที่แหลมๆ ของเจ้าเหมียวออกเสียก่อน ป้องกันเขาดิ้นหนีและข่วนเราได้จากนั้นเลือกสถานที่ในการอาบน้ำ โดยจะต้องเป็นที่ที่ไม่มีลมโกรกมากจนเกินไป ก่อนการอาบน้ำแนะนำให้แปรงขนน้องแมวก่อนเพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้ว และเศษสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเส้นขนออก จากนั้นเปิดน้ำใส่อ่างให้น้ำมีปริมาณประมาณ 1 ฝ่ามือก็พอ น้ำที่อาบก็ควรเป็นน้ำทีมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายแมว คือประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส เมื่อเตรียมน้ำเสร็จแล้วให้ค่อยๆ จับเจ้าเหมียวลงอ่างที่ปูรองด้วยแผ่นกันเลื่อนไว้แล้ว  จากนั้นให้เจ้าของใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำแล้วลูบตามตัวเจ้าเหมียว โดยให้ลูบย้อนขนให้เปียกทั่วตัว เมื่อตัวแมวแฉะแล้วระวังอย่าให้น้ำเข้าหน้าและหูของเขา ผสมแชมพูกับน้ำอุ่นแล้วนำแชมพูมาลูบให้ทั่วตัวแมว นวดเบาๆ ให้เกิดฟอง (อย่าเกาเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ผิวหนังของแมวอักเสบได้) ระวังอย่าให้แชมพูเข้า ตา หู จมูก ของเจ้าเหมียวด้วย เมื่อฟอกสบู่จนวิมลแล้วให้ใช้น้ำอุ่นล้างแชมพูออกให้หมด และนำเจ้าเหมียวขึ้นจากอ่างมาเช็ดตัวโดยห่อผ้าขนหนูให้รอบตัวเจ้าเหมียว เช็ดทำความสะอาดให้น้ำแห้งโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและส่วนหัว และเพื่อให้ขนแห้งสนิทไม่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังที่จะตามมาในภายหลัง ให้ปล่อยเจ้าเหมียวไว้ในห้องที่เปิดพัดลมเอาไว้เพื่อให้ขนแห้ง แต่สำหรับเจ้าเหมียวที่ไม่กลัวเสียงไดร์ ให้ใช้ไดร์ลมอ่อน ๆ เล่นจนขนแห้งสนิท แปรงขนให้พวกเขาอีกครั้งหลังรดน้ำ หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็จะง่วนกับการจัดแต่งขนตัวเอง แค่นี้การอาบน้ำแมวก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การอาบน้ำแมว เจ้าของไม่ทำเป็นต้องทำบ่อย แต่ควรทำการแปรงขนให้พวกเขาอย่างตลอดเวลา การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้ง และหากทำให้ขนแห้งได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมาได้ 

   อาบน้ำแมว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากเสียเหลือเกินสำหรับเริ่มหัด เวลาอาบน้ำหรือตัดเล็บให้แมว เพราะด้วยความดื้อ อยู่ไม่ติดที่ของเจ้าเหมียว และบ่อยครั้งที่จะฝากรอยเล็บให้กับเจ้าของอยู่เป็นประจำ วิธีแก้ปัญหานี้ โดยใช้ถุง Cat Grooming Bag เมื่อจับเจ้าเหมียวใส่ลงไปในถุงปัญหาข้างต้นก็จะหมดไป

อาบน้ำแมว ไม่ยากอย่างที่คิด

อาบน้ำแมว ด้วยเคล็ดง่ายๆ

อาบน้ำแมว สำหรับคนที่รักและเลี้ยงแมวคงจะทราบดีว่าแมวเป็นสัตว์ที่สดใสและมักจะชอบทำความไร้มลทินตัวเองด้วยการเลียขนอยู่บ่อยๆ แต่หลายครั้งที่เจ้าแมวออกไปซุกซนนอกบ้านจนทำให้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบสกปรกต่างๆ นอกจากนี้บางครั้งยังมีคราบสกปรกอย่าง คราบอึ คราบฉี่ ติดอยู่ตามร่างกายโดยที่เจ้าของมองไม่เห็น ซึ่งคราบสกปรกเหล่านี้เป็นที่มาของกลิ่นตัวของแมว และอาจจะหมักหมมจนทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ "การอาบน้ำ" จำเป็นสำหรับแมวเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นๆ  แต่การอาบน้ำให้เจ้าแมวเหมียวนั้นอาจจะมีความยากลำบากมากกว่า เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยจะชอบน้ำสักเท่าไหร่ ฉะนั้นในการชำระล้างให้พวกเขาจึงต้องมีเทคนิคที่จะช่วยให้การทำความสะอาดนั้นง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และในวันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ ในการอาบน้ำให้เจ้าเหมียวตัวแสบมาฝากกัน
วิธีอาบน้ำแมว ก่อนอื่นคือเจ้าของจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จะใช้ในการอาบน้ำเจ้าเหมียวให้เรียบร้อย โดยอุปกรณ์ก็จะมีดังนี้
1. อ่างอาบน้ำขนาดกลาง
2. ฟองน้ำก้อนใหญ่
3. ผ้ายางปูพื้นอ่างเพื่อกันลื่น
4. ผ้าขนหนู
5. แชมพูอาบน้ำแมวที่มีความสุภาพอ่อนโยน และอาจจะเลือกสูตรรักษาเห็บหมัดก็ได้ ส่วนแชมพูของคนอาจจะทำให้ผิวหนังของแมวแห้งและเกิดปัญหาของผิวหนังและขนตามมาได้ ช่วงเวลาในการอาบน้ำให้แมวก็เป็นสิ่งเด่น เจ้าของควรเลือกอาบน้ำให้เจ้าเหมียวในวันที่มีแดดอ่อน ๆ เพราะถ้าอาบตอนอากาศเย็นหรือชื้นแมวจะหนาว อาจเป็นหวัดหรือปอดบวมได้ หลังจากเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม และเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำพร้อมแล้ว ก่อนอาบน้ำเจ้าของควรตัดเล็บส่วนที่แหลมๆ ของเจ้าเหมียวออกเสียก่อน ป้องกันเขาดิ้นหนีและข่วนเราได้จากนั้นเลือกสถานที่ในการอาบน้ำ โดยจะต้องเป็นที่ที่ไม่มีลมโกรกมากจนเกินไป ก่อนการอาบน้ำแนะนำให้แปรงขนน้องแมวก่อนเพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้ว และเศษสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเส้นขนออก จากนั้นเปิดน้ำใส่อ่างให้น้ำมีปริมาณประมาณ 1 ฝ่ามือก็พอ น้ำที่อาบก็ควรเป็นน้ำทีมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับร่างกายแมว คือประมาณ 37-38 องศาเซลเซียส เมื่อเตรียมน้ำเสร็จแล้วให้ค่อยๆ จับเจ้าเหมียวลงอ่างที่ปูรองด้วยแผ่นกันเลื่อนไว้แล้ว  จากนั้นให้เจ้าของใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำแล้วลูบตามตัวเจ้าเหมียว โดยให้ลูบย้อนขนให้เปียกทั่วตัว เมื่อตัวแมวโชกแล้วระวังอย่าให้น้ำเข้าหน้าและหูของเขา ผสมแชมพูกับน้ำอุ่นแล้วนำแชมพูมาลูบให้ทั่วตัวแมว นวดเบาๆ ให้เกิดฟอง (อย่าเกาเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ผิวหนังของแมวอักเสบได้) ระวังอย่าให้แชมพูเข้า ตา หู จมูก ของเจ้าเหมียวด้วย เมื่อฟอกสบู่จนวิมลแล้วให้ใช้น้ำอุ่นล้างแชมพูออกให้หมด และนำเจ้าเหมียวขึ้นจากอ่างมาเช็ดตัวโดยห่อผ้าขนหนูให้รอบตัวเจ้าเหมียว เช็ดทำความสะอาดให้น้ำแห้งโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและส่วนหัว และเพื่อให้ขนแห้งสนิทไม่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังที่จะตามมาในภายหลัง ให้ปล่อยเจ้าเหมียวไว้ในห้องที่เปิดพัดลมเอาไว้เพื่อให้ขนแห้ง แต่สำหรับเจ้าเหมียวที่ไม่กลัวเสียงไดร์ ให้ใช้ไดร์ลมอ่อน ๆ บรรเลงจนขนแห้งสนิท แปรงขนให้พวกเขาอีกครั้งหลังอาบน้ำ หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็จะง่วนกับการจัดแต่งขนตัวเอง แค่นี้การอาบน้ำแมวก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

การอาบน้ำแมว เจ้าของไม่ทำเป็นต้องทำบ่อย แต่ควรทำการแปรงขนให้พวกเขาอย่างเป็นปรกติ การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปอาจทำให้ผิวหนังแห้ง และหากทำให้ขนแห้งได้ไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดปัญหาโรคผิวหนังตามมาได้ 

   อาบน้ำแมว เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเสียเหลือเกินสำหรับไม่ชำนาญ เวลาอาบน้ำหรือตัดเล็บให้แมว เพราะด้วยความดื้อ อยู่ไม่ติดที่ของเจ้าเหมียว และบ่อยครั้งที่จะฝากรอยเล็บให้กับเจ้าของอยู่เป็นประจำ วิธีแก้ปัญหานี้ โดยใช้ถุง Cat Grooming Bag เมื่อจับเจ้าเหมียวใส่ลงไปในถุงปัญหาข้างต้นก็จะหมดไป